แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อร่อยง่ายๆ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อร่อยง่ายๆ แสดงบทความทั้งหมด

Banana Pancake / แพนเค้กกล้วยหอม ไร้แป้ง

กรกฎาคม 30, 2563

      ตื่นเช้าก่อนออกจากบ้านไปทำงาน ทำอาหารเช้าง่ายๆ ทานก่อนค่ะ

 ส่วนผสม
  1. กล้วยหอมสุก
  2. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  3. น้ำผึ้ง (โรยหน้า)
  4. อัลมอนด์ (โรยหน้า)

     นำกล้วยหอมมาขยี้ (เคล็ดลับ!! ใช้กล้วยไม่ต้องสุกมากอย่าขยี้จนเละ) แล้วผสมกับไข่ไก่คนให้เข้ากัน เสร็จทาน้ำมันบางๆ ก่อนใช้ไฟอ่อนสุดๆ รอจนเหลืองได้ที่ หรือตามที่ชอบแล้วค่อยพลิกอีกข้าง
เรียบร้อย แพนเค้ก ไร้แป้ง ทานแล้วไม่อ้วน  ^___^



สูตรราดหน้า "วิธีทำให้อร่อย รสเด็ด"

มิถุนายน 16, 2563

"ราดหน้า"  เหมือนจะเป็นอะไรที่ทำได้ง่ายมากๆ แต่พอลองทำเองทีไรไม่เห็นอร่อยอย่างที่คิดเลยค่ะ วันนี้เราได้นำวิธีการทำยังไงให้อร่อยมาให้ลองทำตามกันดูค่ะ

เตรียมวัตถุดิบ

    1. หมูสันในหั่นชิ้นพอดีคำ ใช้ประมาณ 2 ขีด  หรือ ใช้เป็น  ไก่ กุ้ง ปลาหมึก เป็นต้น
    2.  ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ ใช้ประมาณ 3 ขีด
    3.  คะน้า หั่นพอดีคำ ใช้ประมาณ 2 – 3 ต้น
    4. เต้าเจี้ยวดำ/กระเทียม สับละเอียดประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ
   5.  ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  6.  ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
   7. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
   8.  น้ำมันพืชประมาณ 1/4 ถ้วย
    9. แป้งข้าวโพดประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ
   10. พริกไทยป่น  และน้ำตาลทรายป่น  อย่างละ 1/2 ช้อนโต๊ะ
   11. น้ำซุป
   12. พริกชี้ฟ้าหั่นแว่น

วิธีทำ

  - ผสมซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน  นำหมู หรือเนื้อสัตว์ที่เตรียมไว้ลงไปหมัก แล้วเติมพริกไทยป่นเล็กน้อย พร้อมนวดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน เพื่อให้ซึมซับเข้าไปในเนื้อหมูให้ได้มากที่สุด

 - จากนั้นให้นำเส้นก๋วยเตี๋ยวคลี่ออกจากกันเพื่อไม่ให้เส้นติดกัน  หั่นผักคะน้าเป็นท่อน ท่อนละประมาณ 1 1/2 นิ้ว โดยหั่นแบบโคนเฉียง หรือตามชอบค่ะ

 - นำกระทะขึ้นตั้งไฟ โดยใช้ความร้อนปานกลาง  พอกระทะร้อนเติมน้ำมันพืชลงไปประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ แล้วนำเส้นก๋วยเตี๋ยวลงไปผัดกับซีอิ๊วดำ ผัดจนเส้นสุกและเข้ากับซีอิ๊ว แล้วตักพักไว้

- ตั้งกระทะใหม่โดยใช้ไฟปานกลางเช่นกัน เติมเต้าเจี้ยวสับผสมกับกระเทียมที่เตรียมไว้ลงไปผัด ตามด้วยผักคะน้า และเนื้อหมู "แต่เคล็ดลับก็คือให้ผัดพอเนื้อสุกเท่านั้น" ก็ให้เทน้ำซุปลงไปประมาณ 2 ถ้วย จากนั้นเมื่อน้ำซุปเริ่มร้อนให้ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย น้ำปลา ตั้งไฟต่อให้เดือดค่ะ

 - เมื่อน้ำซุปเริ่มเดือดให้เติมแป้งข้าวโพด ซึ่งจะช่วยให้น้ำซุปนั้นข้น ระหว่างการเติมนั้นต้องคอยคนน้ำซุปอยู่ตลอด เมื่อเห็นว่าข้นเหนียวดีแล้วให้นำไปราดบนเส้นก๋วยเตี๋ยวที่เตรียมไว้ ยกเสิร์ฟได้ทันที

 *เคล็ดลับอีกอย่างหนึ่งก็คือในระหว่างเติมแป้งข้าวโพดนั้นอาจเกิดการเหนียวข้นมากจนเกินไปของน้ำซุป ดังนั้นแนะนำให้คนแป้งกับน้ำจนละลายเสียก่อนค่อยเทลงไปผสมในกระทะอีกที จะช่วยไม่ให้น้ำซุปเกิดความข้นเหนียวมากจนเกินไป เสร็จแล้วเราจะได้ทานราดหน้าร้อนๆ สูตรอร่อย กันได้เลยค่ะ


สามเกลอ - เครื่องเทศ คู่ครัว

มิถุนายน 10, 2563
มักจะได้ยินยายพูดคำนี้อยู่บ่อยๆ  "สามเกลอ"  คงจะมีบางคนที่ยังไม่รู้ว่มันมีอะไรบ้าง?
     สามเกลอ คือเครื่องเทศธรรมชาติ  ที่อยู่คู่ครัวไทยมาช้านาน  มีส่วนประกอบ 3 อย่างค่ะ


     1. กระเทียม - ช่วยดับกลิ่น
  ควรเลือกใช้กระเทียมกลีบเล็ก (กระเทียมไทย) จะมีกลิ่นหอม และเผ็ดกว่ากระเทียมจีนค่ะ  ก่อนนำไปโขลก ให้แกะเปลือกออกเล็กน้อยไม่ต้องแกะออกหมด
     2. รากผักชี  -  ช่วยดับกลิ่น และชูรสชาติ  ให้เลือกรากทขนาดกลาง ถ้าใหญ่มากเส้นใยจะเยอะ ถ้ารากเล็กไปจะไม่หอม  ผึ่งให้แห้ง ก่อนนำไปโขลก


    3. พริกไทย - ช่วยเพิ่มความหอม และเผ็ดร้อน ใช้ได้ทั้งพริกไทยดำ และขาว ให้ใช้เป็นพริกไทยเม็ดค่ะ จะให้ความหอมค่ะ
นำทุกอย่างไปโขลกรวมกันให้ละเอียดค่ะ "สามเกลอ" ก็พร้อมที่จะนำไปทำอาหารหลากหลายเมนู ตามที่เราต้องการแล้วค่ะ


แจกสูตร "ข้าวเหนียวมูนขนุน" หวาน มัน อร่อย

เมษายน 12, 2562

       "ข้าวเหนียวมูน" นิยมทานกับผลไม้ เช่นมะม่วง ทุเรียน  ขนุน   และวันนี้นี่เลยค่ะเรานำเมนูง่ายๆ "ข้าวเหนียวมูนขนุน" ทำง่ายๆ ได้ไม่ยาก มาให้ทำทานกันค่ะ

    วัตถุดิบ
  1. ขนุนเนื้อหนา
  2. ข้าวเหนียว
  3. กะทิ
  4. น้ำตาลทราย
  5. เกลือ
  6. ถั่วทองคั่วสุก

   วิธีการทำ
  1. แช่ข้าวเหนียวประมาณสองชั่วโมงแล้วนำมานึ่งให้สุกในระหว่างนึ่งข้าวเหนียวก็ผสมกะทิน้ำตาลทรายและเกลือตั้งไฟให้ละลาย


 2. เมื่อข้าวเหนียวสุกดีแล้วเทใส่อ่างผสมแล้วค่อยๆ เทกะทิลงไปคนให้เข้ากันจากนั้นปิดฝาไว้ให้ข้าวเหนียวระอุข้าวเหนียวจะไม่แฉะ (แบ่งกะทิไว้เล็กน้อยสำหรับราดหน้าด้วยค่ะ)


  3. ตักข้าวเหนียวยัดใส่ในขนุนที่แกะเมล็ดออกแล้วโรยหน้าด้วยกะทิ และถั่วทองคั่ว

   ข้าวเหนียวมูนที่หวานๆ ทานคู่กับขนุนสีเหลืองสุก หอม แถมยังเพิ่มความกลมกล่อมด้วยน้ำกะทิ  อร่อย น่าทานแบบนี้ ต้องลองทำทานกันบ้างแล้วค่ะ ^____^ 


แจกสูตร "ข้าวเหนียว ทุเรียน"

เมษายน 12, 2562


        "ทุเรียน" เป็นราชาแห่งผลไม้ไทยในหน้าร้อนเลยค่ะ แต่หากใครอยากหาเมนูที่ทำจากทุเรียนเพิ่ม แนะนำเมนูนี้เลยนะ ทำง่ายๆ ไม่ยุ่งยากค่ะ  "ข้าวเหนียวทุเรียน หอม หวาน มันอร่อย"  รับรองอร่อยแน่นอนค่ะ เริ่มเตรียมค่ะ

    วัตถุดิบ
  1. ทุเรียนแกะเนื้อ 1 ถ้วย
  2. หัวกะทิ 1 ถ้วย
  3. น้ำตาลปิ๊บ ¼ ถ้วย
  4. เกลือสมุทร ¼ ช้อนชา
  5. ใบเตยมัดปม 1-2 ใบ
  6. ข้าวเหนียวมูน (สำหรับจัดเสิร์ฟ)
  7.  หัวกะทิ  (สำหรับราด)

    วิธีการทำ
  1. แกะเนื้อทุเรียนออกจากเม็ด ยีเนื้อทุเรียนใส่จานพักไว้
  2. ใส่หัวกะทิ น้ำตาลปิ๊บ เกลือและใบเตยลงในหม้อ แล้วยกขึ้นตั้งบนไฟกลางคนให้น้ำตาลละลายตักใบเตยออกใส่เนื้อทุเรียนยี ลงในหม้อคนให้ส่วนผสมเข้ากันอีกครั้งปิดไฟพักไว้
  3. จัดเสิร์ฟ ใส่ข้าวเหนียวมูนลงในถ้วย หรือจาน  ตักน้ำกะทิทุเรียนราดบนข้าวเหนียว สุดท้ายราดด้วยหัวกะทิหวาน มัน แค่นี้เองค่ะ

     เป็นเมนูที่ง่ายแสนง่าย ทำกันไม่ยากเลยค่ะ แบบนี้ต้องทำทานบ่อยๆ ค่ะ  ^____^

ไอศกรีม "สตรอว์เบอร์รี่ โยเกิร์ต"

มีนาคม 06, 2562

     อากาศร้อนๆ แบบนี้ทำอะไรหวานๆ เย็นๆ ทานกันค่ะ วันนี้มาพร้อมกับสูตร "ไอศกรีมสตรอว์เบอร์รี่ +โยเกิร์ต" ทำได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากค่ะ

 วัตถุดิบ
    1. สตรอว์เบอร์รี่ 5-6 ลูก
    2. กรีกโยเกิร์ต 1 ถ้วย
    3. นมแอลมอนด์ หรือนมสดแทนก็ได้

 วิธีการทำ
  1. ล้างสตรอว์เบอร์รี่ และเอาขั้วออก
  2. นำส่วนผสมทุกอย่างมาปั่นให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  3. ปั่นเรียบร้อยแล้ว ให้นำมากรอง 1ครั้ง เพื่อเอาเม็ดสตอเบอรี่ออก (หรือไม่ต้องกรองก็ได้แล้วแต่สะดวก) หลังจากนั้นเทใส่พิมพ์ เสียบไม้แล้วนำเข้าช่องแข็งประมาณ  3 ชั่วโมง แล้วเสิร์ฟความอร่อยง่ายๆ ได้เลยคร้า
    
     เมนูอร่อยง่ายๆ  แบบนี้เรามีมาฝากกันที่นี่  "นานาสาระ-วาไรตี้"  แล้วพบกันใหม่ค่ะ   ^____^


 

"ไอศกรีม กระเจี๊ยบ" ทำเองได้ไม่ยาก!!

กุมภาพันธ์ 27, 2562


ขั้นตอนที่ 1  ต้มน้ำกระเจี๊ยบ
     -  น้ำเปล่า 4 ลิตร
     -  ดอกกระเจี๊ยบแห้ง (หรือแบบสด) ประมาณ 2 กำมือ
     -  น้ำตาลทรายประมาณ 500-600 กรัม (หากชอบหวานมากใส่เพิ่มค่ะ)
     - เกลือประมาณ 1/4 ช้อนชา


     ต้มทุกอย่างรวม แล้วกันชิมรสดู ขอบหวานมากหวานน้อย หรือชอบออกเปรี้ยวมากน้อย กรองเอาดอกทิ้งไปค่อยก่อนแล้วค่อยเอาเก็บเข้าตู้เย็นไว้ดื่มดับกระหายคลายร้อนก็ดีค่ะ  


ขั้นตอนที่ 2 ทำไอติมจากน้ำกระเจี๊ยบ
    - น้ำกระเจี๊ยบ 4 ถ้วย
    - วิปปิ้งครีม 1 ถ้วย


     นำน้ำกระเจี๊ยบแช่ให้เย็นจัดๆ ในช่องฟรีซค่ะ หรือจะให้ดีเป็นเกล็ดๆ น้ำแข็งหน่อยๆ ส่วนวิปปิ้งให้แช่ในตู้เย็น ห้องเย็นธรรมดาให้เย็นจัดๆ เหมือนกันค่ะ เสร็จแล้วให้นำน้ำกระเจี๊ยบ กับวิปปิ้งครีม มาปั่นรวมกันในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ให้เนียนๆ พอเนียนเข้ากันดีแล้วก็เทใส่กล่องเข้าช่องฟรีซจนเริ่มเป็นน้ำแข็ง (อย่าให้แข็งมากเพราะจะทำให้ปั่นยาก) แล้วก็นำมาปั่นอีกรอบ ปั่นไปแค่สองรอบก็เนื้อเนียนถูกใจพอแล้วค่ะ *หากยังไม่ถูกใจก็นำไปปั่นซ้ำอีกรอบได้ค่ะ
     ปั่นได้ที่ดีแล้วให้นำไปแช่ช่องฟรีซอีกทีให้เซ็ตตัวอีกครั้ง แค่นี้เองค่ะ เราก็ได้ไอศกรีมอร่อยๆ ไว้ให้เด็กๆ และผู้ใหญ่ได้ทานคลายร้อนแล้วค่ะ  เมนูง่ายๆ ใครทำก็อร่อย  ^___^


น้ำผลไม้ "ส้มจี๊ดสมูทตี้"

กุมภาพันธ์ 19, 2562


วัตถุดิบ
  1. น้ำส้มคั้น 1/2 ถ้วย
  2. นมสดพร่องมันเนย 1/4 ถ้วย
  3. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1/4 ถ้วย
  4. ไซรับกลิ่นมะนาว หรือส้ม
  5. น้ำแข็งทุบละเอียด

วิธีทำ
   อันดับแรกผสมตัวน้ำส้ม, นมสด, โยเกิร์ต และไซรับ ลงไปในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ แล้วปั่นให้เข้ากัน จากนั้นค่อยตามด้วยนำแข็งทุบ 1/2ถ้วย กดปั่นน้ำผลไม้ตามชอบ (หากชอบแบบไม่ละเอียดก็ใช้เวลาเพียงครู่เดียว แต่หากชอบแบบเนื้อเดียวกันใช้เครื่องปั่นความเร็วสูง 10 วินาที 2 ครั้ง) เสร็จแล้วเทใส่แก้วตกแต่งแก้วตามความชอบค่ะ

ทำง่ายๆ แค่มีเครื่องปั่น อยู่ที่ไหนก็ทำทานได้  

"น้ำลูกหม่อน" (Mulberry Herbal Drink) ทำเองได้ง่ายๆ

กุมภาพันธ์ 17, 2562

      สรรพคุณ "น้ำสมุนไพร" เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะอุดมไปด้วยวิตามิน เช่นวิตามินเอ วิตามินซี กรดโฟลิค และแร่ธาตุ เช่น โปแตสเซียม โซเดียม สังกะสี แถมยังให้ความหวานโดยธรรมชาติช่วยให้พลังงานแก่ร่างกาย และถูกดูดซึมได้ดี ช่วยให้คลายร้อน และสดชื่นได้เป็นอย่างดีค่ะ

     ส่วนผสมน้ำสมุนไพร
 1. ผลหม่อนสีแดง 50 กรัม
 2. ผลหม่อนสีม่วงดำ100 กรัม
 3. น้ำตาลทราย 100 กรัม
 4. น้ำสะอาด 100ก รัม
 5. เกลือป่นเล็กน้อย
 6. น้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมปริมาณตามชอบ
 7. น้ำแข็งชนิดก้อน (หากต้องการดื่มแบบเย็น)

   วิธีทำน้ำลูกหม่อน เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ

 1. ล้างผลหม่อนให้สะอาด
 2. ใส่น้ำ และผลหม่อนลงไปในหม้อตั้งไฟอ่อนๆ เคี่ยวประมาณ 30 นาที จนเดือด
 3. ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย และเกลือจนส่วนผสมละลายเข้ากันได้ดีแล้วยกลง
 4. เวลารับประทานจะทานกรองเอาแต่น้ำใส่แก้ว แล้วเติมน้ำแข็งบดลงไปก็ได้ หรือจะไม่กรองก็ได้ตามสะดวกค่ะ
 5. ต้องการทานรสหวานก็เติมน้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมเพิ่มเติมได้ค่ะ หากต้องการแบบเย็นสามารถเติมน้ำแข็งได้ 


 เมนูที่ทำได้ง่ายๆ ใครทำก็อร่อย แถมได้สุขภาพที่ดี มีที่นี่ "นานาสาระ - วาไรตี้" แล้วพบกันใหม่ค่ะ

"เห็ดสวรรค์" วิธีทำง่ายๆ

กุมภาพันธ์ 17, 2562

     เราจะใช้ส่วนก้านของเห็ดหอม ส่วนมากมักจะถูกตัดทิ้งก่อนนำเห็ดไปปรุงอาหาร แต่เมนูนี้เรานำก้านเห็ดมาแปลงโฉมให้เป็น “เห็ดสวรรค์” เมนูของว่างรสเค็มหวานกลมกล่อม หรือจะทานคู่กับข้าวเหนียว ก็อร่อยไม่แพ้หมู หรือเนื้อสวรรค์เลยค่ะ

     ส่วนผสม
1. ก้านเห็ดหอมแห้ง แช่น้ำจนนิ่ม 2 ถ้วย
2. น้ำมันพืชสำหรับผัด ¼ ถ้วย
3. น้ำตาลปี๊บ ⅓ ถ้วย
4. ซอสปรุงรส 3 ช้อนโต๊ะ
5. งาขาวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
6. หอมแดงหัวเล็กเจียว ¼ ถ้วย
7. น้ำมันสำหรับทอดเห็ด

     วิธีทำ
 1. ฉีกก้านเห็ดหอมให้เป็นเส้นเล็กผึ่งให้แห้ง แล้วนำไปทอดในน้ำมันร้อนจัดจนเหลืองกรอบพักไว้
 2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อย ใส่น้ำตาลปี๊บ และซอสปรุงรสผัดจนละลายเข้ากันพอเดือดปิดไฟนำเห็ดพักไว้ก่อน
3. นำส่วนผสม ข้อ 1 และข้อ 2  ลงคลุกเคล้าให้เข้ากันจากนั้นเติมงาคั่ว และหอมเจียวคลุกให้เข้ากันอีกครั้งรับประทานกับข้าวเหนียวนึ่งร้อนๆ หอม อร่อยเกินห้ามใจจริงๆ ค่ะ

     Tip
   ** ควรเลือกใช้ก้านเห็ดหอมขนาดใหญ่เพราะเหนียวนุ่มกว่าก้านเล็ก และยังฉีกได้สะดวกอีกด้วย
 - พลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภค 163.83 กิโลแคลอรี
 - โปรตีน 2.07 กรัมไขมัน 12.46 กรัม
 - คาร์โบไฮเดรต 10.84 กรัมไฟเบอร์ 0.81 กรัม

"วิธีทำ กุ้งสด เด้ง กรอบ เนื้อหวาน" เคล็ดลับ!! ทำง่ายๆ

กุมภาพันธ์ 16, 2562



     วิธีการทำให้เนื้อกุ้งกลายเป็นกุ้งเด้งไม่ยากค่ะ แต่มีข้อแม้อยู่เพียงเล็กน้อย นั่นก็คือกุ้งที่จะทำนั้นต้องเป็นกุ้งสดเท่านั้น แต่ก็ไม่ถึงกับต้องมาแบบตัวเป็นๆ กันหรอกค่ะเพียงแค่ว่าดูแล้วสด และตัวไม่ซีดก็พอค่ะ

     เริ่มทำกุ้งเด้งกันได้เลย สิ่งที่ต้องมีก็คือ กุ้งสด, เกลือ และน้ำแข็ง

วิธีทำกุ้งเด้ง!!
   1. นำกุ้งมาแกะเปลือก และเด็ดหัวกุ้ง หรือถุงขี้กุ้งออก (ถุงดำๆบนหัวกุ้ง) เพราะในส่วนหัวของกุ้งจะมีถุงขี้กุ้งอยู่ซึ่งจะทำให้ตัวเอ็นไซม์กุ้งออกมาย่อยสลายเนื้อกุ้งโดยธรรมชาติของมัน ซึ่งถ้าเราซื้อกุ้งสดมาถ้ายังไม่ได้นำไปประกอบอาหารอะไรควรเด็ดหัวกุ้ง หรือถุงขี้กุ้งนั้นออกเสียก่อนเพื่อให้กุ้งยังคงความสดอยู่ได้เพิ่มขึ้นจากปกติ

     2. นำกุ้งไปคลุกเคล้ากับเกลือให้เข้ากัน และล้างออกด้วยน้ำเย็น (ที่นำไปคลุกเกลือเพราะจะทำให้กุ้งเก็บน้ำไว้ในตัวได้ดียิ่งขึ้นค่ะ)เนื่องจากถ้ากุ้งเก็บน้ำไว้ในตัวน้อยเท่าไรก็จะทำให้เนื้อกุ้งยิ่งแห้งมากขึ้นเท่านั้น

   3. นำกุ้งที่ล้างน้ำแล้ว มาแช่ไว้ในน้ำที่ใส่เกลือผสมอยู่ (ใส่น้ำให้พอมิดตัวกุ้ง) แล้วนำน้ำแข็งมาโปะไว้ด้านบนรอจนน้ำแข็งละลาย

    ทำง่ายๆ เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนการทำกุ้งเด้งกันแล้ว ถ้าใครยังไม่นำไปประกอบอาหารในตอนนี้ ก็นำไปใส่ถุงแล้วนำไปแช่ในช่องแช่แข็ง หรือช่องฟรีซตู้เย็นไว้ได้ เมื่อต้องการทำมาประกอบอาหารก็เพียงแช่กุงกุ้งเด้งนี้ในน้ำพอน้ำแข็งจากกุ้งละลายก็นำมาประกอบอาหารได้เลย และการนำกุ้งเด้งนี้ไปประกอบอาหารมีข้อแม้อยู่ว่าควรจะผ่านการปรุงสุกในระยะเวลาอันสั้นจะดีที่สุดค่ะ
ง่ายๆ มากๆ เลยใช่มั้ยคะ แค่นี้เองเราก็มีกุ้งอร่อยไว้ทานได้ไม่มีเบื่อเลย  พบกันใหม่ใน "นานาสาระ - วาไรตี้" ค่ะ

"ข้าวเหนียวมะม่วง" วิธีทำง่ายๆ

กุมภาพันธ์ 12, 2562

   

เตรียมส่วนผสม 

1. มะม่วงสุก 3 ลูก
2. ข้าวเหนียว 1 กิโลกรัม
3. หัวกะทิ 450 กรัม
4. เกลือป่น 3/4 ช้อนชา
5. น้ำตาลทราย 550 กรัม
6. ใบเตย 3-5 ใบ
7. ถั่วทอง 5 ช้อนโต๊ะ
8. หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง (สำหรับน้ำราด)
9. เกลือป่น 1/4 ช้อนชา (สำหรับน้ำราด)

   วิธีทำ ทีละขั้นตอน


 1. นำข้าวเหนียวล้าง และแช่น้ำทิ้งไว้ 1คืน จากนั้นนำไปสะเด็ดน้ำ
 2. นำผ้าขาวบางรองไว้ในซึ้ง จากนั้นนำไปนึ่งจนข้าวเหนียวสุก
 3. ใช้หม้อขนาดเล็กใส่น้ำตาล, เกลือป่น (3/4ช้อนชา) และหัวกะทิ แล้วนำไปตั้งบนไฟอ่อนๆ คนจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีแล้ว จากนั้นจึงใส่ใบเตยลงไปทิ้งไว้สักพักจึงปิดไฟ พักไว้ก่อน
 4. ใช้ชามขนาดกลางใส่ข้าวเหนียวที่นึ่งไว้แล้วลงไปจากนั้นจึงใส่น้ำกะทิที่เคี่ยวไว้ (ในข้อ 3) ตามลงไปคนจนส่วนผสมเข้ากันทั่ว และทิ้งไว้อย่างน้อย 15 นาที
 5. ทำน้ำกะทิราดหน้า โดยผสมหัวกะทิ (2ถ้วยตวง) และเกลือป่น (1/4ช้อนชา) ลงในหม้อขนาดเล็กและนำไปตั้งบนไฟอ่อนๆ คนจนเกลือละลายทั่วจึงปิดไฟ
6. ปอกมะม่วงและจัดใส่จาน เวลาเสริฟจัดข้าวเหนียวใส่จานจากนั้นโรยหน้าด้วยน้ำราดกะทิ และถั่วทอง *ควรเสริฟทันทีหลังจากปอกมะม่วงเสร็จใหม่ๆ จะได้รสชาติมะม่วงที่หอมน่ารับประทานยิ่งขึ้นค่ะ


      มาพบกับ เมนูง่ายๆ กับเราได้ใหม่ที่ "นานาสาระ - วาไรตี้"  ^____^

"กุ้งแช่น้ำปลา" เมนูง่ายๆ ใครทำก็อร่อย

กุมภาพันธ์ 07, 2562
        วิธีทำ 

1. เริ่มจากเตรียมน้ำราดก่อนค่ะ
     พริกขี้หนู เขียว แดง (ตามชอบเผ็ดมาก เผ็ดน้อย)
     กระเทียม
     รากผักชี 3-4 ราก
     ดอกเกลือ ½ ช้อนโต๊ะ
     น้ำมะนาว 3.½ ช้อนโต๊ะ
     น้ำตาลทราย ½ ช้อนโต๊ะ
     น้ำตาลปิ๊บ ½ ช้อนโต๊ะ
นำส่วนผสมทั้งหมดนี้ มาปั่นรวมกันให้ละเอียด เสร็จแล้วชิมรสหากขาดรสไหนก็ปรุงเพิ่มได้ตามใจชอบแล้วพักไว้ก่อน

2. นำกุ้งมาล้างดึงหัวออก แกะเปลือกไว้หางผ่าหลังผ่าให้ลึกหน่อยค่ะ อย่าให้ขาด ดึงเส้นดำที่หลัง และท้องกุ้งออกให้หมดค่ะ

3. นำกุ้งมาล้างด้วยโซดา 2-3 ครั้ง แบบนี้ทำให้กุ้งกรอบ และสดค่ะ หลังจากนั้นเทน้ำโซดาออกเอาแช่ช่องฟรีซไว้ค่ะ แต่ถ้าเรายังไม่ทานก็แช่ช่องธรรมดาไว้ค่ะ

4. จัดใส่จาน  จากนั้นราดน้ำราดลงบนตัวกุ้งวางใบสะระแหน่ ตามด้วยกระเทียมที่ฝานไว้ค่ะส่วนมะระก็วางไว้ข้างๆ ง่ายๆ  แค่นี้เราก็จะได้เมนูกุ้งแช่น้ำปลาเนื้อหวาน สด กรอบ อร่อย ทานกันแล้วค่ะ


"หัวหอมทอด" อร่อยเพลิน เกินห้ามใจ

กุมภาพันธ์ 01, 2562

     วันนี้เรามีเมนูอาหารง่ายๆ ที่ทานเล่นๆ หรือเป็นกับแกล้มชั้นดีเลยก็ว่าได้  สูตรนี้คือ  "หัวหอมทอด"  ที่ทานได้ถูกปากทั้งเด็กและผู้ใหญ่ จะ ทำง่ายจริงหรือ ไปดูขั้นตอนกันเลยค่ะ

    วัตถุดิบ
   1. หอมใหญ่ 2-3 ลูก
   2. แป้งทอดกรอบ 1/2 ถ้วยตวง
   3. แป้งมันบด 4 ช้อนโต๊ะ
  4. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 4 ช้อนโต๊ะ
  5. เกล็ดขนมปัง
  6. น้ำโซดาเย็นจัด 1/2ถ้วงตวง
  7. น้ำมันพืช 3 ถ้วยตวง

วิธีการทำ
     1. นำแป้งทั้ง 3 อย่าง ร่อนเข้าด้วยกัน แล้วใส่โซดาลงไปในแป้ง คนให้เข้ากัน (หากแป้งข้นไปก็เติมโซดาลงไปเล็กน้อยระวังไม่ให้แป้งเหลวเกินไปหรือข้นจนเกินไปค่ะ)


     2. หั่นหอมใหญ่ให้เป็นแว่นๆ แล้วนำไปชุบกับแป้งให้ทั่วชิ้น และตามด้วยชุบเกร็ดขนมปังจนเกร็ดขนมปังติดหอมใหญ่ทั่วทั้งชิ้น ทำแบบนี้ให้หมดใส่จานพักไว้รอลงทอด


     3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช เปิดไฟปานกลางเพื่อไม่ให้หอมใหญ่ไหม้เมื่อน้ำเริ่มร้อนก็เอาลงไปทอดได้เลย พลิกหอมใหญ่ไปมาให้สุกเหลืองกรอบทั่วทั้งสองด้าน


     4. ทอดเสร็จนำขึ้นมาพักไว้บนตะแกรง  ทานคู่กับซอสมะเขือเทศ และมายองเนสอะอร่อย เข้ากันดี ยิ่งทาน ยิ่งเพลินมากเลยค่ะ


         ตอนต่อไปจะอร่อยกับเมนูง่ายๆ  แบบไหน ติดตามเราที่ "นานาสาระ-วาไรตี้"  พบกันใหม่ค่ะ  ^____^  

"ข้าวโพดปิ้งเนยกระเทียม" หอม หวาน มัน

มกราคม 29, 2562



     เมนูนี้เอาใจคนชอบข้าวโพด ขอแนะนำสูตรอร่อย "ข้าวโพดปิ้งเนยกระเทียม"  ที่ทั้งหอม หวาน มัน และอร่อย  ข้าวโพดที่มีความหอมอยู่แล้ว ยิ่งนำไปปิ้งร้อนๆ บวกกับเนยกระเทียมหอมๆ รับรองอร่อยติดใจกันถ้วนหน้าแน่นอน  จะทานเป็นของว่างก็สุดฟิน  กับขั้นตอนการทำที่ไม่ได้ยุ่งยากเลยค่ะ

วัตถุดิบ
   1. ข้าวโพดต้ม  2-3 ฝัก
   2. เนยจืด 2 ช้อนโต๊ะ
   3. กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
   4. เกลือ 2 ช้อนชา
   5. พริกไทย 1 ช้อนชา
   6. พาสลี่ย์สับเล็กน้อย

วิธีการทำ
   1. หั่นแบ่งครึ่งข้าวโพดให้เป็นท่อน (ฝักละ 2 ท่อน หรือตามชอบ) นำโพดมาเสียบไม้เตรียมไว้
   2. ผสมเนย + กระเทียม + เกลือ + พริกไทย พาสลี่ย์คนให้เข้ากัน
   3. ทาเนยกระเทียมให้ทั่วข้าวโพดโรย พาสลี่ย์สับ แล้วนำไปปิ้งให้ได้สีน้ำตาลพอสุกแล้ว ก็พร้อมเสิร์ฟได้เลยค่ะ

      โอ้โห !! ง่าย และไม่ยุ่งยากใดๆ เลย เอาไว้เวลาจัดปาร์ตี้ให้เด็กๆ ลองทำเมนูนี้กันค่ะ ก็เป็นกิจกรรมในครอบครัวที่เด็กๆ จะได้เพลิดเพลิน สนุกสนานกันไปอีกแบบค่ะ พบกันใหม่ใน "นานาสาระ - วาไรตี้" เร็วๆ นี้ค่ะ  ^___^

"กล้วยเชื่อมแดง" อร่อยง่ายๆ ทำเองได้

มกราคม 25, 2562

     ขนมหวานที่ทำจากกล้วย แบบที่ทำง่ายๆ ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก นั่นก็คือ "กล้วยเชื่อมแดง" ทุกวันนี้อาจจะหาทานยากอยู่นะ แบบนี้แล้วก็ต้องลองทำเองซะเลย แถมวัตถุดิบก็หาง่าย แต่จะหวาน อร่อย กลมกล่อม ถูกปากขนาดไหนนั้น เรามีสูตรมาให้ทำตามกันค่ะ

วัตถุดิบ
    1. กล้วยน้ำว้า 1 หวี
    2. น้ำเปล่า 1000 มิลลิลิตร
    3. เกลือ 1 ช้อนชา
    4. ใบเตย 3 ใบ (มัดปม)
    5. น้ำตาลทราย 2 ถ้วย
    6. น้ำตาลมะพร้าว 1 ถ้วย
    7. น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ


วัตถุดิบ (ราดหน้า)
   8. กะทิ 300 กรัม
   9. เกลือ 1/2 ช้อนชา
   10. แป้งข้าวเจ้า 1.1/2 ช้อนชา

วิธีการทำ
   1. เตรียมกล้วย นำมาตัดหัว และท้ายจากนั้นก็ปอกเปลือกผ่าครึ่งแช่น้ำไว้ เทน้ำเปล่าลงไปในกระทะใส่เกลือและใบเตยมัดปม แล้วตามด้วยกล้วยเทใส่ลงไปต้มใช้เวลา 15 นาที

   2. ใส่น้ำตาลทรายและน้ำตาลมะพร้าว (ใช้น้ำตาลปิ๊บแทนได้ค่ะ) ต้มจนน้ำตาลละลาย บีบมะนาวลงไปต้มจนน้ำแห้งลดลงครึ่งนึงและกล้วยเปลี่ยนเป็นสีแดงเสร็จแล้วปิดไฟแล้ววางพักไว้

   3. ทำน้ำกะทิสำหรับราดหน้า ตั้งกะทิบนไฟอ่อนใส่เกลือ และแป้งข้าวเจ้าลงไปคนอย่างรวดเร็ว ตักกล้วยขึ้นใส่จานราดกะทิไว้ด้านบน หรือจะจัดเสิร์ฟแบบแยกกะทิไว้อีกถ้วยก็ได้ค่ะตามสะดวกค่ะ

             อีก 1 เมนูง่ายๆ  ที่ทาง "นานาสาระ-วาไรตี้"  ได้นำมาฝากกันค่ะ พบกันใหม่นะคะ

"ปลาหมึกสอดไส้ ทอดกระเทียม" เมนูง่ายๆ

มกราคม 10, 2562

       เมนูง่ายๆ แสนอร่อย  "ปลาหมึกสอดไส้ ทอดกระเทียม" เป็นเมนูที่เด็กๆ จะต้องชอบแถมทานเป็นกับแกล้มอร่อยได้อร่อยดีค่ะ

     วัตถุดิบ
  1. ปลาหมึก  5-6 ตัว
  2. หมูสับ  150 กรัม
  3. ต้นหอม  1 ต้น
  4. รากผักชี  1 ราก
  5. กระเทียมกลีบเล็ก  3 ช้อนโต๊ะ
  6. พริกไทยป่น  1/2 ช้อนชา
  7. น้ำตาลทราย  1/2 ช้อนชา
  8. น้ำมันหอย  2 ช้อนชา
  9. น้ำปลา  2 ช้อนชา
  10. เกลือ  1/2 ช้อนชา
  11. น้ำมัน 1 ถ้วย

 วิธีการทำ ที่ไม่ยุ่งยาก
   1. สับกระเทียม, รากผักชี ให้ละเอียด พร้อมด้วยซอยต้นหอม แล้วพักไว้ก่อน


   2. นำกระเทียมสับ, รากผักชีสับ, และต้นหอมซอย มาหมักรวมกับหมูสับ จากนั้นปรุงเครื่องด้วยน้ำปลา, น้ำตาล, น้ำมันหอย, พริกไทยป่น


   3. นำหมูสับที่หมักไว้ มายัดใส่ลงในตัวปลาหมึก (ที่ล้างเตรียมไว้) ใช้มีดบั้งตัวปลาหมึก  เพิ่มอีกอย่างนำกระเทียมที่สับไว้แบบพอหยาบมาคลุกกับเกลือพักไว้ก่อน


   4. จากนั้นตั้งน้ำมันให้ร้อน นำปลาหมึกลงทอดเมื่อสุกแล้วสะเด็ดน้ำมัน  ให้นำกระเทียมที่หมักเกลือไว้ (ข้อ 3) มาทอดให้เหลืองกรอบ 


    5. จัดเสิร์ฟ โดยโรยกระเทียมไว้บนตัวปลาหมึก ทานกับข้าวสวยร้อน หรือจะทานเป็นกับแกล้ม ก็เข้าทีดีค่ะ

        เป็นอันว่าได้เมนูแสนง่าย และอร่อย ที่เราไม่ควรพลาดเมนูนี้แน่นอนค่ะ

"ข้าวโพดคลุกเนย" ทำเอง หวาน มัน อร่อย

มกราคม 06, 2562
      แจกสูตร!!   "ข้าวโพดคลุกเนยหวานมันอร่อย"  เมนูง่ายๆ ทำเองให้อร่อยได้ไม่ยาก ด้วยวัตถุดิบและขั้นตอนการทำง่ายนิดเดียว  มาค่ะ >>>

วัตถุดิบ
     1. ข้าวโพดแกะเมล็ดนึ่งสุก 150 กรัม
     2. นมข้นจืด  2 ช้อนโต๊ะ
     3. เนยสด หรือมาร์การีน  1 ช้อนโต๊ะ
     4. น้ำตาลทราย (ตามชอบ)

วิธีการทำ
     1. แกะข้าวโพดหวานที่ต้มสุก หรือนึ่งสุกแล้วเป็นเม็ดๆ แนะนำให้ใช้วิธีแกะออกจากฝักไม่ใช่วิธีฝานเพราะจะทำให้ข้าวโพดขาดไม่เป็นเม็ด

     2. ต้มน้ำให้ร้อน เติมเกลือ และน้ำตาล ลงไปแค่พอประมาณนำข้าวโพดที่แกะเตรียมไว้แล้วใส่ลงไปในหม้อต้มจนข้าวโพดลอยขึ้นเหนือน้ำ เป็นอันว่าข้าวโพดสุกแล้ว

     3. ตักข้าวโพดใส่ชามที่ไว้  ตักเนยใส่ข้าวโพดอัตราส่วนเนย 1 ช้อนชา  กับข้าวโพด 2 ทัพพีจากนั้นก็คลุกจนเนยละลายเคลือบเม็ดข้าวโพด

     4. เติมน้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ และนมจืด 1 ช้อนโต๊ะ และเกลือ 1 หยิบมือคลุกจนทุกอย่างเข้ากัน (การคลุกทั้งหมดข้าวโพดต้องมีความร้อนอยู่เสมอเพื่อให้ส่วนผสมทุกอย่างละลายเข้ากันได้ลงตัวกว่า) ตักใส่ชามพร้อมเสิร์ฟได้ทันทีค่ะ

       หากใครทำอร่อย แล้วจะลองเอาไปทำขายเป็นอาชีพเสริมก็ดีเลยค่ะ

"เสือร้องไห้" ทำเองง่ายๆ (แจกสูตร!!! อร่อยฟรี)

มกราคม 04, 2562
        มาเข้าครัวทำอาหารอิสาน  หรือจะทำเป็นกับแกล้ม ก็ดี  "เสือร้องไห้"  เมนูที่แสนจะง่ายแสนง่าย มาค่ะ >>>


วัตถุดิบ
     1. เนื้อวัวส่วนหน้าอกติดมัน  500 กรัม
     2.น้ำปลา  1 ช้อนโต๊ะ
     3. ซีอิ๊วขาว  1 ช้อนโต๊ะ
     4. เกลือป่น  1/2 ช้อนชา
     5. พริกไทย (ตำละเอียด)  1/2 ช้อนชา

วิธีการทำ
     1. แล่เนื้อเป็นแผ่นหนาประมาณ  1 เซนติเมตร

     2. หมักด้วยเครื่องปรุงน้ำปลา, ซีอิ๊วขาว ,เกลือป่น และพริกไทยตำละเอียด คลุกเคล้าให้เข้าเนื้อแช่ตู้เย็น 2 ชั่วโมงหรือ  30 นาทีแล้วแต่สะดวกถ้าอยากให้นุ่มก็นานหน่อย

     3. เมื่อเนื้อหมักเสร็จแล้วนำมาย่างด้วยไฟร้อนปานกลาง แนะนำให้ย่างด้วยเตาถ่าน จะได้เนื้อที่หอม

     4. นำเนื้อมาหั่นให้พอดีคำ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแจ่ว แซ่บๆ กันได้เลยคะ

     **เคล็ด(ไม่)ลับ
            - จะแล่เนื้อก่อนหมัก หรือจะแล่หลังหมักก็ได้นะคะ ตามสะดวกของเราค่ะ
           - ย่างเนื้อจนกรอบนอก นุ่มใน ให้น้ำไหลซึมออกมา จนส่งกลิ่นหอมฟุ้ง 



แจกสูตร !! "หมูสามชั้นทอดน้ำปลา"

มกราคม 02, 2562

   วันนี้เรานำสูตร ง่ายๆ มาให้ลองทำทานกันอีกแล้วนะคะ "หมูสามชั้นทอดน้ำปลา" หมูสามชั้นนุ่มๆ ทอดน้ำปลาจนกลิ่นหอมฟุ้ง ทานร้อนๆ กับข้าวเหนียว จิ้มด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ด อร่อยจนลืมอ้วนไปเลยค่ะ

วัตถุดิบ สำหรับหมูสามชั้น
 1. หมูสามชั้น  1/2 กิโลกรัม
 2. น้ำปลา 3  ช้อนโต๊ะ
 3. ซอสปรุงรส  1/2 ช้อนโต๊ะ
 4. น้ำตาลทราย  1.1/2 ช้อนชา

วัตถุดิบ สำหรับทำน้ำจิ้ม
 1. กระเทียม   6-8 กลีบ
 2. พริกขี้หนูสวน (ตามชอบ)
 3. น้ำปลา  3 ช้อนโต๊ะ
 4. น้ำมะนาว  3 ช้อนโต๊ะ
 5. น้ำตาลทราย  1/2 ช้อนโต๊ะ

วิธีการทำ
 1. นำหมูหมูสามชั้นมาทอดจนน้ำมันจากเนื้อหมูออกมา พอหมูเริ่มแห้งก็เทเอาน้ำมันออก

 2. ปรุงรสด้วยน้ำปลา, ซอสปรุงรส, น้ำตาล, ผัดให้เข้ากันเสร็จแล้วก็ตักใส่จาน

 3 .ทำน้ำจิ้ม ตำกระเทียมและพริกขี้หนูสวนให้เแหลก จากนั้นก็ปรุงรสด้วยน้ำปลา,น้ำมะนาว,และน้ำตาลทรายผสมให้เข้ากันแล้วชิมรสหากยังไม่พอใจก็สามารถเติมเข้าไปได้อีก

 5. เสิร์ฟหมูสามชั้นทอด พร้อมน้ำจิ้มใส่ซีฟู้ด ทานกับข้าวเหนียว หรือข้าวสวยร้อนๆ ก็เข้ากันมากๆ ค่ะ

      หิวข้าวแล้วค่ะ ไปทำทานกันเลยดีมั้ยค่ะ