แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ดีมีประโยชน์ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ดีมีประโยชน์ แสดงบทความทั้งหมด

3 เคล็ดลับ! ผิวหน้าสุขภาพดี จาก "มะเขือเทศ"

พฤศจิกายน 26, 2563

      ประโยชน์ดีๆ ของมะเขือเทศ ในการดูแลผิวหน้า ด้วย 3 เคล็ดลับ ดังต่อไปนี้ค่ะ   

1. เคล็ดลับ  เผยผิวกระจ่างใส

นำมะเขือเทศลูกใหญ่หั่นเป็นชิ้นหนาหน่อยนะคะ เสร็จแล้วนำไปคลุกกับน้ำตาลทราย ต่อด้วยนำมาวางให้ทั่วหน้า ทิ้งไว้สักครู่ หรือ 15 - 30 นาที แล้วล้างหน้าปกติ สูตรนี้ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ช่วยเผยเซลล์ผิวหน้าใหม่ที่ดูกระจ่างใสยิ่งขึ้นค่ะ 


2. เคล็ดลับ กระชับรูขุมขน

นำมะเขือเทศมาคั้นเอาเฉพาะน้ำ นำไปผสมกับน้ำมะนาวอีกนิดหน่อย จากนั้นนำมาทาหน้าทิ้งไว้สักครู่ หรือ 15 - 30 นาที แล้วใช้น้ำอุ่นล้างออก แล้วล้างตามด้วยน้ำเย็นอีกครั้ง สูตรนี้ช่วยให้รูขุมขนที่เปิดกว้างกระชับเต่งตึงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ


3. เคล็ดลับ ชะลอริ้วรอย
นำมะเขือเทศผสมเข้ากับแป้งรั่ม คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้จนแห้ง แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำเปล่า สูตรนี้ถ้าหมั่่นทำเป็นประจำสม่ำเสมอแล้ว รับรองว่าเราจะได้ผิวหน้าเต่งตึง และสดในขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแน่นอนค่ะ


     3 สูตร ง่ายๆ ไม่เยอะ!! ทุกอย่างหาง่าย และใกล้ตัวจริงๆ ค่ะ อย่าลืมทำเป็นประจำเพื่อความสวยจะอยู่คู่เราไปนานๆ ค่ะ




น้ำมะเขือเทศ ช่วยลดความดัน

พฤศจิกายน 25, 2563
    

      > มะเขือเทศ มีดี อีกแล้วค่ะ<

ในการประชุมแพทย์ที่อเมริกา นายแพทย์ต่างลงความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง ไม่ต้องกังวลมากอีกแล้ว

     เพียงแต่ทุกเช้า และก่อนนอน ให้ดื่มน้ำมะเขือเทศครั้งละ 1 แก้วก็พอ หากว่าน้ำมะเขือเทศจะมีรสเฝื่อนควรผสมกับน้ำผลไม้รสอื่นๆ ด้วยก็ได้ (แต่อย่าให้รสหวานมาไปนะคะ)

        แค่นี้เอง ไม่ยากใช่มั้ยล่ะ แถมน้ำมะเขือเทศยังช่วยในเรื่องผิวพรรณอีกด้วยค่ะ

ยังมีเรื่องราวที่เป็นประโยชน์อีกมากมาย ใน "สาระ1000เรื่อง"  >>>

"แก้วมังกร " กับประโยชน์สุดเจ๋ง

กรกฎาคม 29, 2563
   
 
       "แก้วมังกร" เป็นผลไม้ที่ใครหลายๆ ชื่นชอบ และรู้หรือไม่ว่าเป็นผลไม้ที่เป็นหนึ่งในรายชื่อ "ซุปเปอร์ฟู้ด" ว่ากันว่าคนรักสุขภาพ กับคนลดน้ำหนัก "ห้ามพลาด" เพราะอะไรน่ะหรือ เราได้นำประโยชน์สุดเจ๋ง ของแก้วมังกร มาบอกให้ได้รู้ทั่วกัน รับรองว่าจะต้องอยากรีบหามาทานแน่นอน!!

     แก้วมังกร ช่วยควบคุมน้ำตาลชั้นเยี่ยม!

จึงเหมาะอย่างมากสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน แถมขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้ที่ให้ไฟเบอร์สูงปรี๊ด จึงเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยควบคุม เเละรักษาน้ำตาลในเลือด  เเต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อความปลอดภัยสหรับท่านที่เป็นโรคเบาหวานก่อนรับประทานขอคำเเนะนำของเเพทย์เจ้าไข้จะเป็นการดีที่สุดค่ะ

     สรรพคุณของแก้วมังกร ช่วยดับกระหายคลายร้อน
โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนคงไม่มีผลไม้ชนิดไหนจะดีเเละเพอร์เฟ็คไปกว่าเเก้วมังกรอีกเเล้วล่ะ นอกจากนี้เมล็ดสีดำของเเก้งมังกรยังมีประโยชน์ที่ดีเพราะเต็มไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัว สามารถต่อต้านปฏิกิริยาออกซิเดชั่นได้เป็นอย่างดี ทั้งยังบรรเทาอาการร้อนในได้ดีมากๆ ทีเดียว

     ช่วยทำให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง ชะลอวัยได้ดีเยี่ยม 
เพราะในแก้วมังกรมีวิตามิน และแร่ธาตุมากมาย เริ่มตั้งเเต่วิตามินบี1 2 3, วิตามินซี, โปรตีน, แคลเซียม, และฟอสฟอรัส, ธาตุเหล็ก ซึ่งเหล่านี้ล้วนมีความจำเป็นต่อผิวพรรณของเราอย่างมาก ดังนั้นการรับประทานเเก้วมังกรจึงทำให้ผิวของเราดูสดใส สดชื่น ช่วยชะลอริ้วรอยที่เกิดก่อนวัยอันควรได้สารอนุมูลอิสระที่อยู่ภายในแก้วมังกรช่วยทำให้ผิวพรรณเต่งตึง และดูอ่อนเยาว์กว่าวัย  หรือใครสะดวกจะทำเป็นที่มาส์กหน้าเพื่อลดต้นเหตุของการเกิดสิว  ด้วยการฝานแก้วมังกรออกเป็นแผ่นบางๆ ก็ทำได้เช่นเดียวกันค่ะ 


      

อยากลดน้ำหนักต้องทาน!!
แก้วมังกรขนาดประมาณ 100กรัม ให้เเคลอรี่ เพียง 60 กรัม ซึ่งถือว่าเป็นผลไม้ให้พลังงานต่ำ เเถมน้ำตาลที่อยู่ในแก้วมังกรเป็นน้ำตาลกลุ่มน้ำตาลกลูโคส, ฟรุกโตส, เเละซูโครส  อีกทั้งยังพ่วงสารอาหารมาเเบบครบเครื่องเต็มที่เเบบสุดๆ ไปเลยค่ะ  แบบนี้จึงเหมาะสมกับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก  ใยอาหารที่มีอยู่ภายในเเก้วมังกรช่วยทำให้รู้สึกอิ่มท้องได้ยาวนาน กระตุ้นระบบการขับถ่าย หมดปัญหาเรื่องหน้าท้องโตเเพราะปัญหาท้องผูกไปได้ค่ะ

     แก้วมังกรเป็นผลไม้ที่ดีต่อใจที่สุดแระ!!
สุดยอดประโยชน์เจ๋งๆ ที่ต้องบอกว่าไม่ลองทานนี่คือพลาดค่ะ ยังช่วยลดระดับคอเรสเตอรอลชนิดไม่ดีในเลือด เเละยังเป็นการช่วยเพิ่มระดับคอเรสเตอรอลชนิดที่ดีให้แก่ร่างกาย เป็นผลไม้ที่มีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวนั่นเป็นไขมันที่ดีต่อร่างกายต่อสุขภาพของเรานั่นเองค่ะ

     ประโยชน์สุดเจ๋งอื่นๆ
มีดังนี้ค่ะ ทานเเล้วช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย, ทานเเล้วช่วยบำรุงกระดูก, เเละฟันให้เเข็งเเรง ข้อนี้เป็นคุณค่าที่คู่ควรกับผู้สูงอายุทั้งหลายเลยค่ะ นอกจากนี้ยังเป็นตัวช่วยชั้นดีในการช่วยกระตุ้นการขับน้ำนมในสตรีภายหลังจากการคลอดบุตรได้อีกด้วยค่ะ

     สรรพคุณเด็ด!! ขนาดนี้ต้องหามาติดตู้เย้นไว้ทานให้ได้เเล้วค่ะ ไม่ว่าจะเราเลือกรับประทานทั้งที่เนื้อในเป็นสีเเดงเข้ม เเละชนิดที่เนื้อในเป็นสีขาว ยังไงก็ได้ประโยชน์ที่ดีไม่เเพ้กันเลย เพราะเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพไปเเบบไม่มีข้อเเม้กันเลยทีเดียว  ติดตาม "นานาสาระ - วาไรตี้" >>

6 นิสัย ที่ทำให้อ้วน

กรกฎาคม 29, 2563

    หากใครมีนิสัยตามนี้ เลิกซะ !! ก่อนที่ความอ้วนจะมาโดยไม่รู้ตัว


 1.  กินเร็ว   เวลาทานควรเคี้ยวอาหารคำละ 20 - 30 ครั้ง ก่อนกลืน

 2.  กินจุบจิบ  ไม่ควรซื้อขนมขับเคี้ยวติดไว้ที่โต๊ะทำงาน หรือที่บ้าน

 3.  กินเรียบ  ควรตักแต่พอดีทาน เน้นน้อยๆ ไม่อิ่มค่อยเติมทีหลังได้

 4.  อดมื้อเช้า มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญมากๆ ควรทานให้ครบ 5 หมู่

 5.  อารมณ์ไหนก็กิน  หากหิวให้ทานเมื่อรู้สึกหิว ไม่ใช่แค่ใจอยาก

 6.  นอนดึก-ทานดึก  ควรนอนให้ได้อย่างน้อย คืนละ 8 ชั่วโมง

        เคล็ดลับปรับใหม่นะ...เพื่อหุ่นที่ดีกว่าเดิม  >>>>> ติดตามเราได้ใหม่ ใน สาระ1000เรื่อง ..

7 ข้อดี "ดื่มกาแฟ ไม่ใส่น้ำตาล"

มิถุนายน 10, 2563

    ประโยชน์ของการดื่มกาแฟไม่ใส่น้ำตาลในตอนเช้าตอนท้องว่างวันละแก้วช่วยทำให้ความจำดีขึ้นมาก

ทราบหรือไม่ว่าการดื่มกาแฟไม่ใส่น้ำตาลมีประโยชน์เยอะมาก พอได้ดื่มแล้วจะทำให้ร่างกายสดชื่น กระปี้กระเปร่าพร้อมสำหรับการทำงานในเช้าวันใหม่นี้ด้วย นอกจากนั้นยังมีส่วนในการช่วยขยายหลอดเลือดและขับปัสสาวะได้ดีอีกด้วย ฉะนั้นก็ควรจะเลือกทานกาแฟที่มีคุณภาพด้วยนะ มาดูกันว่ากาแฟดี ๆ ดื่มกันอบย่างไร

ดื่มกาแฟวันละกี่แก้วถึงจะอยู่ในความพอดี  นั่นสินะ ซึ่งจำนวนนั้นไม่ได้มีผลตรงกับจำนวนคาเฟอีนในกาแฟนะ ซึ่งร่างกายควรได้รับคาเฟอีนเพียงวันละไม่เกิน 180 – 200 มิลลิกรัมเท่านั้นสมองจะได้ไม่โดนกระตุ้นมากเกินไป ถ้าได้รับเยอะไปจะทำให้ใจสั่น นอนไม่หลับ หงุดหงิด ปวดหัว และ ท้องเสีย ได้เหมือนกัน

ประโยชน์ของการดื่มกาแฟไม่ใส่น้ำตาลในตอนเช้า

1. ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้เป็นอย่างดี พุงยุบน้ำหนักลด

กาแฟนั้นช่วยแยกจับไขมัน โดยเฉพาะคนที่ชอบทาน เนื้อและอะไรที่มันย่อยยาก ๆ กาแฟ 1 แก้วไร้น้ำตาลจะไปช่วยย่อยให้เร็วขึ้น ดื่มแล้วลดไขมันตกค้าง ทำให้น้ำหนักลดและไม่ลงพุงอีกด้วย

2. ลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง
มีงานวิจัยหลายตัวยืนยันแล้วว่ากาแฟแบบไม่ใส่น้ำตาลนั้นช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปากมดลูก มะเร็งตับ และโ รคอื่น ๆ ได้ แน่นอนคาเฟอีนเป็นตัวช่วยยับยั้งนั่นเอง อีกทั้งยังช่วยลดการเกิดโรคอื่น ๆ ได้เยอะเหมือนกัน รวมถึงเบาหวาน ด้วยนะ

3. ดื่มกาแฟตอนเช้าจะช่วยทำให้ความจำดีขึ้น
กาแฟทำให้สมองปลอดโปร่งเลยส่งผลให้ความจำดีขึ้น อารมณ์ก็จะดีขึ้นอีกด้วย มีจิตใจสงบ แต่จะต้องดื่มในปริมาณที่เหมาะสม

4. บำรุงร่างกายให้ไม่แก่เร็ว
พอลองเปรียบกับคนดื่มกาแฟเป็นประจำแบบไม่ใส่น้ำตาลกับคนที่ไม่ดื่ม ปรากฏว่าคนที่ดื่มสมรรถภาพทางร่างกายจะแข็งแรงกว่า เคลื่อนไหวดีกว่า ลุก นั่ง ยืน เดิน ได้คล่องตัวมากกว่า เนื่องจากคาเฟอีนเป็นตัวช่วยกระตุ้นนั่นเอง ทำให้มีแฮงฮึดขึ้นตั้งเยอะ

5. ดื่มกาแฟบำรุงผิวได้ดี
ต้องกาแฟไม่ใส่น้ำตาลเท่านั้นนะถึงจะดี จะทำให้ระบบไห ล เวียนเลือดทำงานปกติ ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายทำงานดี ช่วยแก้ท้องผูกอีกด้วยทำให้ผิวดีมากขึ้น

6. ลดความเสี่ยงการเป็นนิ่ว
อีกหนึ่งโรคลดความเสี่ยงได้ด้วยกาแฟ ก็มีผลสำรวจพบว่า สตรี ที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ 4 แก้ว/วัน นั้นลดโอกาสจะเป็น โรคนิ่ว ในถุงน้ำดีลงถึง 25 % เลยทีเดียว

7. ดื่มกาแฟแก้เครียด
หากเครียดการดื่มกาแฟจะช่วยได้เยอะเลย หรือเวลาเหนื่อย ๆ มาจิบกาแฟสักหน่อยทำให้อารมณ์ดีขึ้นมาได้นั่นเอง โดยดื่มกาแฟ 2 – 3 แก้ว/วัน ลดความเครียดได้ 15 % เลย

การดื่มกาแฟที่ไม่ใส่น้ำตาลยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกหลายอย่างเลยด้วย อย่างน้อยก็เอาเป็นว่าทานแบบไม่มีน้ำตาลดีกว่ามีน้ำตาล ใส่วิปครีมเยอะเลยนะ เพราะน้ำตาลจะยิ่งอ้วน ยิ่งเสียสุขภาพด้วยนะ ถ้าจะให้ดีฝึกดื่มกาแฟแบบไม่ใส่น้ำตาลจะดีกว่า

 

"กล้วย" ประโยชน์เยอะ (รู้ยัง?)

สิงหาคม 29, 2562
     "กล้วย" ไม่มีใครไม่รู้จัก แต่จะรู้หรือไม่? ว่ามีประโยชน์มากมายกว่าที่เราคิด มากยังไง? เรามารู้จักกับบรรดากล้วยๆ กัน ให้ดีกว่านี้ค่ะ



     เริ่มที่ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี คือกล้วยน้ำว้า เป็นกล้วยที่ให้พลังงานมากที่สุด รองลงมาก็เป็นกล้วยไข่ แล้วตามด้วยกล้วยหอม
     นอกจากจะให้พลังงานกับเราแล้ว กล้วยยังอุดมไปด้วยโปรตีน แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ เหล็ก อีกอย่างมีวิตามินซีสูง ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันได้อีกด้วย

      ใครที่ท้องผูกบ่อยๆ ไม่ต้องกังวลอีกแล้ว ให้ทานกล้วยสุกเป็นประจำติดต่อกัน จะช่วยเรื่องการระบายถ่ายท้องได้ผลดีค่ะ (สาวๆ ท้องผูกบ่อยไม่ดีนะค๊ะ)
      ใครที่ท้องเสีย ให้ทานกล้วยห่ามๆ ครั้งละ 1 ลูก จะช่วยทุเลาอาการได้ค่ะ (หรือทานเป็นกล้วยดิบก็ได้ค่ะ)
     ในวันที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ ใครที่เจ็บคอ หรือมีอาการไอแห้วๆ และไอมากๆ  ให้ทานกล้วยสุกวันละ 5 - 6 ลูก รับรองช่วยบรรเทาอาการไอ และเจ็บคอให้ดีขึ้นได้

    กล้วยดีกับสุขภาพผิวด้วยนะ ถ้าสาวๆ อยากผิวพรรณดี และสวยอย่างมั่นใจ ไร้กลิ่นปาก ให้ทานกล้วยน้ำว้าทุกเช้า (ก่อนแปลงฟัน) ทานติดต่อกันประมาณ 1 สัปดาห์ ปากจะหอม ผิวจะผ่อง ว้าว!! สุดยอด ^___^^

       รู้อย่างนี้แล้วผลไม้ในสวนที่บ้านของเราเอง ก็มีประโยชน์มากมายจริงๆ หาทานง่ายๆ ใกล้ๆ ตัวเราแถมได้ทั้งพลังงาน ได้ทั้งสุขภาพ

     โปรด-ติด-ตาม-ตอนต่อไป >>>>

4 เคล็ดลับ .. ช่วยให้ทานอาหารได้น้อยลง

สิงหาคม 28, 2562


      มีผลการศึกษาจาก Centers for Disease Control and Prevention พบว่า ร้อยละ 80 ของผู้ที่ลดน้ำหนักสำเร็จ และสามารถควบคุมน้ำหนักให้อยู่คงที่ได้นั้นใช้หลักการเดียวกัน คือ ทานให้น้อยลง ซึ่งอาจทำตามได้ยาก ยังไงก็อยากให้ลองใช้ตัวช่วย เพื่อให้ลดความอยากลงได้ มีวิธีมาแนะนำค่ะ

     1. อย่าทาน ขณะดูทีวี   เพราะผลการศึกษาจาก มหาวิทยาลัยแมสซาซูเซตส์ บอกว่า คนส่วนใหญ่จะทานเพิ่มขึ้นอีกกว่า 300 แคลอรี่ เมื่อดูทีวีไปด้วย
     2. อย่าทาน ขนมขบเคี้ยวจากถุง  เพราะโอกาสที่จะทานหมดถุงมีสูงมาก ควรใช้ภาชนะแบ่งเพื่อควบคุมไม่ให้ทานมากจนเกินไป
     3. เคี้ยว ให้ช้าลง  เพราะกว่าร่างกายจะส่งสัญญาณว่า "อิ่ม" จากท้องขึ้นไปสู่สมอง ใช้เวลากว่า 20 นาที ดังนั้น ควรชะลอเวลาด้วยการเคี้ยวให้นานขึ้น เพื่อช่วยให้ย่อยง่าย และเว้นช่วงระหว่างคำ ด้วยการหายใจเข้า-ออกช้าๆ 
     4. เปลี่ยนบรรยากาศด้วยการเดินเล่นนอกบ้าน หรือทำกิจกรรมที่ไม่ต้องเห็นอาหาร เพราะนักวิจัยจากประเทศออสเตเลีย พบว่า การเบี่ยงเบนความสนใจด้วยการถอยห่างให้พ้นจากอาหาร หรือตู้เย็นจะช่วยลดความอยากอาหารลงได้

         ค่อยๆ ปรับกันไป เพื่อสุขภาพที่ดีค่ะ .......^^
     


"เที่ยวบ่อยๆ" สุขภาพยิ่งดี

สิงหาคม 28, 2562
 

  สุขภาพดี  นอกจากจะออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ และอีกหลากหลายวิธี แต่วันนี้เรามีอีกวิธีมาแนะนำค่ะ  "ไปเที่ยว" เพราะการไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ก็นำพาสุขภาพที่ดีให้กับเราได้อย่างน่าประหลาดค่ะ 

      การไปพักผ่อนตากอากาศอย่างสม่ำเสมอช่วยลดอัตราการวายของหัวใจได้ถึง 1 ใน 3 เพราะจิตใจที่ผ่อนคลาย และแจ่มใสจากการได้เที่ยว ได้พักผ่อน ทำให้ความดันเลือดของเราลดลงได้ทีค่ะ

      การทำงานหนัก ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ต่อครอบครัว ดังนั้นจึงไม่ควรโหมงานหนักจนเกินไป ควรหาโอกาสไปเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัวบ้าง จากการบอกเล่าของเด็กๆ กว่า 62% อยากให้พ่อแม่หยุดทำงานหนัก และเหนื่อยน้อยลง

      การไปพักผ่อนทำให้เกิดความสุข สุขภาพจิตดี พบว่าผู้หญิงที่หยุดพักผ่อนจากงานประจำเพื่อไปท่องเที่ยวตากอากาศปีละ 2 ครั้ง จะเครียด และเป็นโรคซึมเศร้าน้อยลงค่ะ แถมยังมีความสุขกับชีวิตครอบครัวมากว่าอีกด้วย

      แบบนี้อย่ารีรอควรหาโอกาส พาครอบครัวไปที่เที่ยวพักผ่อนหย่อนใน และผ่อนคลายจากความเครียดกันบ้างนะคะ
 

6 สุดยอดอาหารเพื่อเสริมร่างกายให้แข็งแรง

สิงหาคม 10, 2562


บลูเบอร์รี่ - บำรุงสายตาให้คมชัด 
     อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยฟื้นฟูและบำรุงสายตามให้แข็งแรง ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นักบินรบในสมัยนั้นต้องรับประทานบลูเบอร์รี่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยบำรุงสายตาในยามที่ต้องบินตอนกลางคืนด้วย



ข้าวโอ๊ต - เพิ่มพลังงาน
     ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล ซึ่งช่วยให้ร่างกายมีพลัง และไม่เหนื่อยล้าง่าย ค่ะ








กะหล่ำปลีสีม่วง - บำรุงเส้นผมให้เงางาม
     มีธาตุเหล็ก และแคลเซี่ยม ซึ่งเป็นสารอาหารหลักเพื่อช่วยให้เส้นผมเงางาม






บราซิล นัท - บรรเทาอาการซึมเศร้า
     ถั่วต่างๆ โดยเฉพาะบราซิล นัท อุดมไปด้วยธาตุซีเลเนียม (Selenium) ที่ช่วยทำให้อารมณ์สดชื่นขึ้นได้ค่ะ




น้ำมันปลา และเมล็ดลินซีด (Linseeds) - บำรุงผิวให้อ่อนเยาว์ 
     ทั้ง 2 อย่างนี้มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีความสำคัญต่อการบำรุงผิวกาย และเล็บให้ชุ่มชื่น




ผักชี - บรรเทาความเครียด
     อุดมด้วยวิตามิน B1 B2 B6 และ B12 ซึ่งช่วยในเรื่องบำรุงสมองให้ผ่อนคลาย




ติดตามสาระดีๆ ได้อีกเร็วๆ นี้ค่ะ

ระวัง !! โรคที่มากับเครื่องปรับอากาศ




    ช่วงนี้อากาศร้อนมากเลยนะค๊ะ เราจึงใช้งานเครื่องปรับอากาศค่อนข้างหนักมาก แต่ให้พึงระวัง ! โรคที่อาจมากับเครื่องกันบ้างก้อดีค่ะ มาดูกันค่ะว่ามีอะไรแอบแฝงมาบ้าง

    เครื่องปรับอากาศนอกจากจะช่วยให้คลายร้อนลงได้ แต่ก้อเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคนานาชนิด เช่น ไวรัส เชื้อรา และแบคทีเรีย ที่ล้วนส่งผลต่อสุขภาพของเราทั้งนั้น โรคที่ว่าคือ โรคภูมิแพ้ หืดหอบ ผื่นคัน ผิวหนังอักเสบ หรือโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ เป็นต้น

   ไม่ยากค่ะ  เราสังเกตเองง่ายๆ ถ้าเปิดแอร์แล้วมีกลิ่นอับชื้นปนออกมากับลมเย็น แสดงว่ามีเชื้อโรคแอบแฝงอยู่ ควรถึงเวลาทำความสะอาดได้แล้ว

    วิธีทำความสะอาด โดยนำแผ่นกรองออกมาล้างอย่างน้อย 1 เดือนครั้ง ด้วยการฉีดน้ำแรงๆ ที่ด้านหลังแผ่นเพื่อให้ฝุ่นที่เกาะอยู่ด้านหน้าหลุดออก แนะนำในแต่ละปีควรล้างแบบเต็มระบบ เพื่อช่วยขจัดเชื้อโรคแอบแฝงที่ติดอยู่ตามส่วนต่างๆ ได้ครบถ้วนยิ่งขึ้น และอย่ามองข้ามพัดลม ควรทำความสะอาดฝุ่นที่เกาะตามใบพัด รวมทั้งฝาครอบพัดลมให้หมดจดอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง

   สิ่งรอบตัวที่เรา สังเกต และทำความสะอาดได้ง่ายๆ ค่ะ


เลือกเติมน้ำมันเวลาใด? จะได้น้ำมันมากที่สุด


     ในภาวะที่น้ำมันแพงในปัจจุบัน ที่เกิดจากความขัดแย้งทางการเมืองของรัสเซียกับสหรัฐ ส่งผลให้รัสเซียเพิ่มราคาน้ำมันผสานกับ นักค้าเงินจากอเมริกาไล่เก็งราคาน้ำมันจึงทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นนั้น 

     พวกเราก็สรรหาทุกวีถีทางในการประหยัดการใช้น้ำมัน และการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้น้ำมัน ไปจนถึงประสิทธิภาพในการเติมน้ำมัน

     ถ้าหากจะเติมน้ำมันให้ได้ปริมาณมากที่สุด ควรเติมในช่วงเวลา 04.00 - 06.00น. เพราะเป็นช่วงที่สาภาวะอากาศเย็น อุณหภูมิพอเหมาะน้ำมันมีความหนาแน่นสูงสุดของวัน และแรงดันของตัวจ่ายน้ำมันจะไม่เกิดแรงดันลมมากเกินไป ทำให้ปริมาณน้ำมันที่ออกมามีลมปนอยู่น้อยกว่าช่วงเวลาอื่นๆ ใครรู้เทคนิคนี้แล้ว ก็อย่าลืมบอกต่อเพื่อนๆ ด้วยนะค๊ะ

                       มีดีอีกเยอะ ......
      

"สร้างความมั่นใจให้ตัวเอง" เรียนรู้ได้ด้วย 5 วิธี

มิถุนายน 19, 2562

      ความมั่นใจหาได้จากที่ไหน?  อันดับแรกเราต้องมาเรียนรู้กันว่าเราจะเริ่มหาจากตรงไหน และสร้างมันได้จากอะไรกันค่ะ เรามีวิธีคิดค้นหาตัวตน และต้นตอ เริ่มจาก 5 วิธี ที่เราได้นำมาแบ่งปันกันเลยค่ะ

  1. ก่อนอื่นค่ะ ให้เราเปิดใจรับฟังความต้องการที่แท้จริงของตัวเองค่ะ สิ่งนี้จะเปิดโอกาสให้กับเราได้พบกับตัวตนที่แท้จริงของเรานั่นเอง  และเมื่อพบแล้วถึงวันนั้น เราจะสามารถตอบเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอดีตได้อย่างชัดเจนว่าเหตุใดในบางเรื่องควรจึงได้พาตนเองไปเจอกับบางสิ่ง หรือปฏิเสธบางสิ่ง

  2. มองย้อนไปหาข้อผิดพลาดของเรา และเรียนรู้บทเรียนครั้งก่อน หลังจากที่ฟังความต้องการของตนเอง และทำให้เห็นเหตุการณ์ในอดีตแล้วว่าสิ่งใดที่ตนเองได้ทำล้มเหลวไว้ การเรียนรู้ข้อผิดพลาดนั้นๆ ทำให้เรารู้ดีว่าในอนาคตเราจะหาหนทางทุกวิถีทางเผื่อที่จะไม่ทำให้ตนเองต้องซ้ำรอยเดิม

  3. อยู่กับข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น เมื่อเราดำเนินชีวิตมาจนถึงวันที่เหตุการณ์บางเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นแล้วหนทางเดียวที่จะเรียกความมั่นใจให้กลับมาสู่ตัวเองได้อย่างรวดเร็วก็คือ "การยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น" นั่นเอง

  4. สร้างจุดแข็งของตนเอง เมื่อคุณได้ฟังความต้องการของคุณเองแล้ว และคุณได้เรียนรู้ถึงอดีตที่ผ่านมาแล้วว่าเหตุผลอะไรคุณจึงได้หรือไม่ได้ในบางสิ่ง เมื่อคุณวิเคราะห์อย่างชัดแจ้งแล้ว การสร้างจุดแข็งให้กับกับตนเองจากเหตุผลที่คุณค้นหาเจอแล้วนั้น จะสามารถปรับให้เป็นพลังและเปลี่ยนเป็นจุดแข็งของคุณเองได้ค่ะ

   5. เสริมจุดแข็งให้แกร่งขึ้น ความมั่นใจในตนเองเกิดจากการรักตัวเอง และพอใจในความเป็นตัวเองก่อน เมื่อได้ปรับจุดแข็ง และได้ริเริ่มรักตัวเองแล้ว ก็ควรจะพัฒนาจุดแข็งนั้นด้วยการเสริมจุดแข็งให้กับตนเอง เพื่อการสร้างรากฐานความพอใจในตนเองให้เกิดขึ้นอย่างชัดเจนนั้นเองค่ะ

     เมื่อเรารู้ตัวเอง รู้สาเหตุ ที่มาที่ไป และรู้ว่าเรามีจุดแข็งตรงไหนจงสร้างมันให้แข็งแกร่ง และจงเริ่มรักตัวเองมากขึ้น พบกันใหม่ใน "นานาสาระ - วาไรตี้"  ^____^

           

"ครีมกันเเดด" กับ ทริคควรรู้

มีนาคม 05, 2562

     ในทุกๆ วันการใช้ชีวิตประจำวันเราต้องพึ่ง "ครีมกันเเดด"  กันเป็นประจำไม่ว่าจะออกแดด หรืออยู่ในร่ม ก็แนะนำให้ใช้ครีมกันแดดกันเทุกๆ วันค่ะ เรียกได้ว่าเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยให้ผิววเราไม่หมองคล้ำเพิ่มขึ้นนั้นเองค่ะ เราจึงได้นำทริคดีๆ มาฝากค่ะ

 1. ควรทาครีมกันเเดดก่อนออกไปข้างนอกทุกครั้ง
     แต่ไม่ใช่ว่าเวลาจะออกเเดดเเล้วทาปุ๊บจะไปได้เลยนะ เพราะครีมกันเเดดก็ต้องมีเวลาในการซึมซับลงผิวหนังเหมือนกันเพื่อให้เนื้อครีมซึมลงสู่ผิวหนังที่ดีคุณก็ควรทาก่อนออกไปข้างนอกประมาณ 20-30 นาที  *อย่าลืมเผื่อเวลากันนร้า

 2. ทาครีมกันเเดดก่อนใส่เสื้อผ้า หรือชุดว่ายน้ำ จะดีที่สุด
     นี่เป็นวิธีการที่ดีที่สุดที่จะทำให้คุณสามารถทาครีมกันเเดดได้ทั่วทั้งร่างกาย เเต่หากถ้าทาครีมกันเเดดในขณะที่ใส่เสื้อผ้าไปเเล้วส่วนที่อยู่ภายในร่มผ้าก็อาจโดยเเสงเเดดได้ค่ะ ทุกคนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าการครีมกันเเดดส่วนใหญ่เเค่ที่เเขนเท่านั้น เเต่คุณควรทาบริเวณอื่นๆ ที่โดนเเสงเเดดด้วยเช่นบริเวณลำคอ แผ่นหลังหรือหูก็สำคัญมากเลยค่ะ

 3. หน้าฝนก็มีความจำเป็นต้องทาครีมกันเเดดด้วยค่ะ (ห๊ะ! ต้องทาด้วยเหรอ)
     ใช่ค่ะว่าครีมกันเเเดด เเต่ในหน้าฝนรู้ไหมค่ะว่าคุณก็จำเป็นที่จะต้องทาครีมกันเเดดด้วยเช่นกันนะ เพราะเเดดในหน้าฝนก็มีรังสียูวีมาทำร้ายผิวของคุณได้เช่นกัน ไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นอย่างไรครีมกันเเดดถือเป็นไอเท็มชิ้นสำคัญที่ต้องพกติดไปทุกที่เลยคะ ครีมกันเเดดที่ใช้ในหน้าฝนแนะนำให้ใช้ "ชนิดกันน้ำ" ค่ะ

 4. การทาให้มีประสิทธิภาพ ต้องดูปริมาณที่ทาในเเต่ละครั้ง
     ข้อนี้ขอบอกพลาดไม่ได้เลย มากก็ไม่ดี ถ้าน้อยก็ไม่ได้เหมือนกัน! อ้าว!!  ง่ายๆ ค่ะการทาครีมกันเเดดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดก็ลองเลือกบีบครีมกันเเดดในปริมาณเท่าเหรียญสิบ หรือ 2 ข้อนิ้วมือของคุณเอง  หรือหากทาในครั้งเดียวไม่หมดเพราะว่ามันเหนอะหนะ ก็ให้ทิ้งไว้สักครู่ แล้วทาทับรอบ 2 ได้นะคะ

 5. ให้ดูจากค่า SPF ด้วย
     เวลาเลือกซื้อก็ต้องดูให้ดีค่ะว่าสามารถป้องกันได้ทั้ง UVA เเละ UVB ได้หรือไม่ ให้ดูที่ตัวผลิตภัณฑ์ค่ะว่ามีทั้งค่า SPF ที่ใช้ป้องกันรังสี UVB เเละค่า PA ที่ช่วยป้องกันค่า UVA ด้วยหรือเปล่าเพราะรู้ไหม? ว่าครีมกันเเดดที่มีเเค่ค่า SPF มีหน้าที่ช่วยป้องกันผิวจากการไหม้, การเกิดผิวคล้ำจากเเสงเเดด เเต่ถ้ที่ไม่มีค่า PA รังสี UVA จะส่งให้เกิดรอยคล้ำฝังลึก หรือเหี่ยวย่นได้เหมือนกันค่ะ  เเต่!! ตัวที่มีค่า SPF สูงก็ไม่ได้เเปลว่าจะดีเสมอไป เพราะหากคุณไม่ออกเเดดเเรงจัดเเต่ใช้แบบที่มีค่า SPF สูงคุณก็เสี่ยงที่จะได้รับสารเคมีสูงได้เหมือนกัน แนะนำ สำหรับคนที่มีผิวเเพ้ง่ายก็ลองเลือกค่า SPF ต่ำลงมาสักหน่อยค่ะ

 6. เลือกให้เหมาะกับสภาพผิวของคุณ
     สภาพผิวของเเต่ละคนไม่เหมือนกัน  ดังนั้นก็ต้องให้เหมาะสมกับสภาพผิว  เช่น กันเเดดเนื้อครีมเหมาะสำหรับคนที่มีผิวเเห้ง เเละเเพ้ง่าย, หรือแบบเนื้อเจลเหมาะสำหรับคนที่มีสภาพผิวมันเป็นต้น

       รู้ทริคดีๆ เกี่ยวกับการใช้ครีมกันเเดดกันไปเเล้ว จะเลือกซื้อเลือกใช้อย่าลืมเลือกให้ถูกต้อง เพื่อดูเเลสุขภาพผิวของคุณในทุกครั้งที่ต้องเผชิญกับเเสงเเดดค่ะ  ติดตาม ใน "นานาสาระ - วาไรตึ้" แล้วพบกันค่ะ  ^_____^


"น้ำลูกหม่อน" (Mulberry Herbal Drink) ทำเองได้ง่ายๆ

กุมภาพันธ์ 17, 2562

      สรรพคุณ "น้ำสมุนไพร" เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะอุดมไปด้วยวิตามิน เช่นวิตามินเอ วิตามินซี กรดโฟลิค และแร่ธาตุ เช่น โปแตสเซียม โซเดียม สังกะสี แถมยังให้ความหวานโดยธรรมชาติช่วยให้พลังงานแก่ร่างกาย และถูกดูดซึมได้ดี ช่วยให้คลายร้อน และสดชื่นได้เป็นอย่างดีค่ะ

     ส่วนผสมน้ำสมุนไพร
 1. ผลหม่อนสีแดง 50 กรัม
 2. ผลหม่อนสีม่วงดำ100 กรัม
 3. น้ำตาลทราย 100 กรัม
 4. น้ำสะอาด 100ก รัม
 5. เกลือป่นเล็กน้อย
 6. น้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมปริมาณตามชอบ
 7. น้ำแข็งชนิดก้อน (หากต้องการดื่มแบบเย็น)

   วิธีทำน้ำลูกหม่อน เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ

 1. ล้างผลหม่อนให้สะอาด
 2. ใส่น้ำ และผลหม่อนลงไปในหม้อตั้งไฟอ่อนๆ เคี่ยวประมาณ 30 นาที จนเดือด
 3. ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย และเกลือจนส่วนผสมละลายเข้ากันได้ดีแล้วยกลง
 4. เวลารับประทานจะทานกรองเอาแต่น้ำใส่แก้ว แล้วเติมน้ำแข็งบดลงไปก็ได้ หรือจะไม่กรองก็ได้ตามสะดวกค่ะ
 5. ต้องการทานรสหวานก็เติมน้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมเพิ่มเติมได้ค่ะ หากต้องการแบบเย็นสามารถเติมน้ำแข็งได้ 


 เมนูที่ทำได้ง่ายๆ ใครทำก็อร่อย แถมได้สุขภาพที่ดี มีที่นี่ "นานาสาระ - วาไรตี้" แล้วพบกันใหม่ค่ะ

3 เคล็ดลับ!! ดูเเลผิวไม่ให้แห้งกร้าน

มกราคม 30, 2562
       เพราะเมืองไทยอากาศมันร้อน มีส่วนอย่างมากที่จะทำให้สุขภาพผิว โดยเฉพาะคนที่มีผิวอ่อนแอ หรือเเพ้ง่ายอาจกลายเป็นคนหิวเเห้งได้เหมือนกัน ใครที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่ไม่ต้องกังวลไป  เรามีเคล็ดลับดีๆ ที่ช่วยดูเเลผิวไม่ให้เเห้งกร้านมาให้เราทำตามค่ะ

  1. ดื่มน้ำสะอาดให้เยอะ ๆ (โดยเฉพาะสาวๆ ที่กำลังประสบปัญหาแบบนี้)
       วิธีง่ายๆ  ในการบำรุงผิวไม่ให้เเห้งเเตก หรือหยาบกร้าน  ให้ดื่มน้้ำเข้าไปมากๆ ประโยชน์ของการดื่มน้ำอย่างเพียงพอ เเละดื่มน้ำเยอะๆ นอกจากจะเป็นประโยชน์ที่ดีต่อร่างกายเเล้วก็เป็นการช่วยความชุ่มชื้นให้กับสภาพผิว อีกทั้งยังได้คืนความเต่งตึงให้กับผิวพรรณอีกด้วยค่ะ ดังนั้นวิธีพื้นฐาน เช่น การดื่มน้ำวันละ 7-8 แก้วเพียงเท่านี้ก็ช่วยได้เยอะเเล้วคะ
เพราะปัญหาผิวแห้ง ส่วนหนึ่งมาจากน้ำในผิวของเรามีปริมาณน้อยนั่นเอง จึงเป็นผลทำให้เกิดผิวแห้ง หรืออาจลอกเป็นขุยๆ
 
 2.  ดูเเลผิวแห้งด้วยมะเขือเทศ
      ทานน้ำน้ำมะเขือเทศเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ นอกจากมะเขือเทศจะช่วยบำรุงผิวของคุณให้มีสุขภาพดีขึ้นเเล้ว ปัญหาเรื่องผิวเเห้งเสียก็หายห่วงขึ้นเยอะเลยเพราะภายในมะเขือเทศอุดมไปด้วยวิตามินนานาชนิด ไลโคพีนเเคโรทีนอยด์ธาตุอาหาร เช่น กรดอะมิโนเบต้าเเคโรทีน ที่จะช่วยฟื้นฟูผิวเเห้งกร้านให้กลับมาสดใส สดชื่นมากยิ่งขึ้นค่ะ

  3. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับผิวเเห้งเสียโดยเฉพาะ
      ต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว สำหรับผิวเเห้งเสีย หรือใช้ทันทีเลยภายหลังจากที่คุณอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ เพราะนั่นจะเป็นการช่วยฟื้นฟูผิวของคุณให้กลับมาชุ่มชื้นสดอีกครั้งหนึ่งนั่นเอง เพราะปัญหาผิวเเห้งเราก็ควรที่จะทาครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอค่ะ เเต่ก็อย่าลืมเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสภาพผิวของเเต่ละคนค่ะ

    แต่ก็ยังมีวิธีการการง่ายๆ อย่างการป้องกันเเสงเเดดการสวมใส่เสื้อ หรือกางเกงเเขนยาวขายาว เวลาออกเเดดเมื่อไหร่ก็อย่าลืมพกร่มไปเสมอก็จะช่วยป้องกันจากปัญหาผิวไม่ให้เเห้งเสียเพิ่มนั่นเอง หมั่นมาส์กหน้ากด้วยวัสดุจากธรรมชาติ เช่น มะเขือเทศ เเตงกวา หรือว่านหางจระเข้ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีดีๆ ที่ช่วยดูเเลปัญหาผิวเเห้งเสียได้อีกทางเลือกค่ะ

"ฝุ่นละออง" ทำลายผิวหน้า ป้องกันยังไงดี?

มกราคม 28, 2562
        มาเฝ้าระวังสำหรับวิกฤตฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เหมือนจะยังไม่จางหาย และอาจความรุนเเรงมากขึ้นอีก  ซึ่งนอกจากจะกลายเป็นปัญหาสุขภาพ เเละระบบทางเดินหายใจเเล้ว รู้ไหมว่ารุนเเรงยิ่งไปกว่านั้นก็คือฝุ่นละอองเหล่านี้ยังทำร้ายสุขภาพผิวของเราอีกด้วยค่ะ เช่น เป็นปัญหาสิวอุดตัน, สิวผื่น,  ผิวหน้ามัน,  ริ้วรอย ที่เกิดขึ้นก่อนวัยอันสมควร หรือรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า ผิวเกิดปัญหาหมองคล้ำ ดูไม่กระจ่างใส เป็นเเบบนี้จะป้องกัน และดูเเลยังไง มีเคล็ดลับดีๆ มาฝากค่ะ

 1. ทาครีมกันเเดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง
     ก่อนออกจากบ้านทุกครั้งก็อย่ามองข้ามความสำคัญของครีมกันเเดด ต้องไม่ลืมทาทุกครั้ง ที่ไม่ว่าจะเผชิญกับสถานการณ์รูปแบบใดหมอกควัน หรือฝุ่นละอองเมื่อมาพบกับเเสงเเดดหรือ UV ก็จะทำให้เกิดสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ทำให้เซลล์ผิวถูกทำร้าย เเละทำลายคอลลาเจนในชั้นผิวหนังได้ เเน่นอนว่าสิ่งที่ได้ตามมา ก็คือ  ปัญหาผิวหมองคล้ำ  เเละทำให้เกิดริ้วรอยได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นเพื่อไม่ให้ฝุ่นละอองขนาดจิ๋วที่คุณไม่สามารถมองเห็น *ก่อนออกจากบ้านทุกครั้งอย่าลืมทาครีมกันเเดดเพื่อป้องกันสารพัดปัญหาผิวของคุณค่ะ

 2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

     สาวๆ ทั้งหลายทราบรู้หรือไม่ ว่าการดื่มน้ำให้เพียงพอนอกจากจะเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว หรือทำให้ผิวของคุณเเลดูกระจ่างใส เปล่งปลั่งแล้ว  ยังมีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิดอีกค่ะ โดยเฉพาะกับการเผชิญสภาวะที่เต็มไปด้วยฝุ่นละอองเช่นนี้ การดื่มน้ำก็จะช่วยขับของเสียออกจากร่างกายของเราได้เป็นอย่างดี  *เเต่อย่าลืมว่าต้องดื่มให้เพียงพอด้วยน้ำจะคอยทำหน้าที่ขับของเสียให้ผิวกระจ่างใสมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ

 3. ถึงบ้านเเล้วต้องล้างหน้าให้สะอาด
     สำคัญมากเลยค่ะ โดยเฉพาะคุณสาวๆ ห้ามพลาดเลยเด็ดขาด!  หลายคนเข้าใจว่าใส่หน้ากากอนามัยเพื่อปกป้องตัวเองจากฝุ่นละออง หรือทาครีมกันเเดดไปแล้วนี่นา ขอบอกว่าเลยว่าฝุ่นละอองเล็กๆ พวกนี้นี้ก็เล็ดลอดไปยังผิวของคุณได้ค่ะ  ดังนั้นวิธีการกำจัดฝุ่นเเละมลภาวะที่น่าจะแก้ปัญหาได้ดีที่สุด ก็คือการล้างเเละทำความสะอาดผิวหน้าให้หมดจดนั่นเองค่ะ  หรือจะใช้คลีนซิ่งเพื่อเช็ดเเละล้างเครื่องสำอางออกให้หมด  ปิดท้ายการล้างหน้าด้วยโทนเนอร์อีกทีก็จะเป็นการทำความสะอาดได้อย่างหมดจดมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ


  4.  ฟื้นฟูเเละบำรุงผิวของคุณอยู่เสมอ
     สำคัญเลยค่ะ  ทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอเเล้วก็อย่าลืมฟื้นฟู เเละบำรุงผิวที่ถูกทำร้ายให้กลับมาดังเดิมด้วยค่ะซึ่งสกินเเคร์ที่ดีเเละมีคุณภาพก็มีอยู่มากมายหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ได้ตามความชอบ หรือใครที่มีสุดยอดสกินเเคร์อยู่เเล้วก็สามารถนำมาใช้เพื่อเป็นการฟื้นฟูเเละบำรุงผิวของคุณให้กลับมาเเข็งเเรงอีกครั้ง เมื่อผิวหน้าของคุณเเข็งเเรงขึ้นเเล้วก็จะได้เป็นการป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรก เชื้อโรค หรือฝุ่นละอองซึมซับเข้าสู่ผิวของคุณได้ยากขึ้น

   5. สวมใส่หน้ากากอนามัย
     การสวมใส่หน้ากากอนามัยก็ถือว่าเป็นหาทางที่ช่วยป้องกันไม่ให้ฝุ่นละอองเข้ามาสู่ผิวหน้าของคุณได้ง่ายเเม้จะไม่ได้ 100% เเต่ป้องกันไว้ดีกว่าแก้ค่ะ  ยิ่งตอนนี้มีการรณรงค์ให้สวมหน้ากากอนามัยที่สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กจิ๋วได้ เช่น N95 เเต่ถ้าหาไม่ได้จริงๆ ก็ใช้หน้ากากอนามัยเเบบธรรมดาไปก่อน อาจเพิ่มความหนาซ้อนทับด้วยกระดาษทิชชู่อีก 2 แผ่น นอกจากช่วยป้องกันฝุ่นละอองตัวร้ายไม่ให้ทำลายสุขภาพของเราได้เเล้ว ก็ยังเป็นการป้องกันผิวหน้าของคุณได้อีกทางหนึ่งด้วยค่ะ

     เรื่องผิวหน้าเป็นเรื่องสำคัญที่สาวๆ ไม่ควรละเลยและมองข้าม  และเเม้ว่าจะเจอฝุ่นละอองมาทำร้ายมากเเค่ไหน  ถ้าเรารู้จักวิธีการดูเเลที่ถูกต้อง และเราก็สามารถปฏิบัติได้อย่างสม่ำเสมอเเล้วก็คงไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลกันอีกต่อไปเเล้วค่ะ  พบกันใหม่ ตอนต่อไปได้ใน "นานาสาระ - วาไรตี้" เร็วๆ นี้ค่ะ  ^___^

เลือกทาน "ไข่เยี่ยวม้า" อย่างไร? ให้ปลอดภัย

มกราคม 19, 2562
      

      ท่านที่ชอบการรับประทาน "ไข่เยี่ยวม้า"  วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังกันว่าทานยังไงให้ปลอดถัย มาอ่านดูกันก่อนค่ะะ

  ไข่เยี่ยวม้าเกิดขึ้นจากอะไร?
ไข่เยี่ยวม้าเป็นผลผลิตจากการการถนอมอาหารประเภทไข่อย่างหนึ่ง โดยวิธีการถนอมอาหารด้วยการพอกด้วยปูนขาว ผสมใบชา เกลือป่น และขี้เถ้านวดด้วยน้ำเย็น หรืออีกวิธีหนึ่งคือนำไปแช่ในน้ำที่มีส่วนผสมของสารละลายเบสที่มีปูนขาว เกลือ โซดาแอชชาดำ และสังกะสีออกไซด์

     สิ่งที่ทำให้ไข่เยี่ยวม้ากลายอาหารที่ไม่ได้ปลอดภัย100% นั่นก็เพราะผู้ประกอบการ หรือพ่อค้าแม่ค้าบางรายมีแอบใช้สารตะกั่วออกไซด์ หรือซัลไฟด์ลงในส่วนผสมที่ใช้พอก หรือแช่เพื่อช่วยให้ไข่กลายเป็นไข่เยี่ยวม้าได้เร็วขึ้น และเห็นผลมากขึ้นซึ่งอาจทำให้ไข่เยี่ยวม้าที่ผลิตมีสารตะกั่วปนเปื้อนได้

  สารตะกั่วในไข่เยี่ยวม้าอันตรายอย่างไร?
หลายครั้งที่คิดจะซื้อไข่เยี่ยวม้ามาทาน ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการเลือกบริโภคไข่เยี่ยวม้าเพิ่มมากขึ้น เพราะการมีสารตะกั่วปนเปื้อนอยู่ในอาหารบ่อยๆ และทำให้มีอาการท้องผูก และส่งผลต่อการทำงานที่ผิดปกติของเซลล์ไขกระดูกระบบประสาทไต หรืออาจเลยไปถึงกล้ามเนื้อกระดูกข้อมือ ข้อเท้า ที่อาจเกิดอาการอัมพาต หรือสมองบวมชักและอาจถึงเสียชีวิตได้ เเต่อย่างไรก็ตามเมื่อคุณได้รับสารปนเปื้อนในอาหารสะสมอยู่มากเข้าๆ ก็จะเเสดงอาการตามข้างต้น  แต่ถ้าไม่ได้ทานเป็นประจำก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะยังทานได้ตามปกติ

   วิธีสังเกต ไข่เยี่ยวม้าที่ปลอดภัย
มาสังเกตไข่เยี่ยวม้าที่สุ่มเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของสารตะกั่วกันค่ะ  ให้สังเกตที่ไข่ขาวว่ามีสีดำมากเกินไปหรือไม่อาจจะเป็นลักษณะสีดำขุ่นไม่ใช่สีน้ำตาลเข้มใสๆ อย่างที่เคยเห็นกัน ถ้าผิดสังเกตแบบนี้ขอให้สันนิษฐานว่าเป็นไข่เยี่ยวม้าที่ปนเปื้อนสารตะกั่ว จากขั้นตอนการทำไข่เยี่ยวม้าดังนั้นให้พยายามหลีกเลี่ยงการรับประทานค่ะ หรืออย่ารับประทานบ่อยเกินไป

     เเต่ถึงอย่างไรก็ตามไข่เยี่ยวม้าที่ไม่มีสารปนเปื้อนจากตะกั่วก็ยังเป็นอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกายพอๆ กับไข่สดนอกจากนี้ยังสามารถเก็บไว้ได้นาน มีแคลเซียมสูงเพียงเเต่ให้ระเเวดระวังการรับประทานเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการทานค่ะ

"มันฝรั่ง" กับความงาม 5 เคล็ดลับ!!

มกราคม 18, 2562
    
     เราเอาเคล็ดลับจาก "มันฝรั่ง" สำหรับดูเเลสุขภาพผิวพรรณที่ดี"มาฝากกันค่ะ และวันนี้เราเลยไปรวบรวมเคล็ดลับสารพัดประโยชน์เพื่อความงามมาฝากค่ะ

1. บำรุงผิวหน้าให้สวยกระจ่างใส
     เพียงเเค่คุณนำมันฝรั่งไปบด เเล้วนำมามาส์กหน้า หรือคั้นเอาเเต่น้ำของมันฝรั่งมาใช้มาส์กหน้า ทำเป็นประจำจะช่วยทำให้ผิวหน้าเเลดูกระจ่างใสขึ้นค่ะ เเถมยังช่วยลดเลือนรอยสิวที่เกิดขึ้นได้อีกด้วย ลองนำไปใช้ดูค่ะ

2. มันฝรั่งช่วยฟื้นฟูผมเเห้งเสีย
     เพียงเเค่นำมันฝรั่งไปคั้นให้เอาเเต่น้ำออกมาเเล้วนำน้ำของมันฝรั่งที่ได้ไปผสมเข้ากับว่านหางจระเข้ หลังจากนั้นก็นำมามาส์กผมรวมถึงหนังศีรษะของคุณได้เลยค่ะ ประโยชน์มากมายของมันฝรั่งที่อุดมไปด้วยวิตามินนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นโปรตีนฟอสฟอรัส วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี เเละเเร่ธาตุที่สำคัญเเละจำเป็นอีกมากมายที่ล้วนเเต่มีส่วนสำคัญในการช่วยฟื้นฟูผมที่เเห้งให้นุ่มเเละชุ่มชื้นมากขึ้นค่ะ ใครที่กำลังผมเสียอยู่น่าจะลองสักทำกันดูค่ะ

3. มันฝรั่งช่วยลดรอยหมองคล้ำใต้ตา
     วิธีการก็คือให้ขูดมันฝรั่งออกเป็นเส้นๆ เเล้วนำไปคั้นเอาเเต่น้ำเมื่อได้น้ำจากมันฝรั่งมาเเล้วก็ให้นำสำลีไปชุบน้ำที่คั้นได้ เเละให้คุณนำแผ่นสำลีไปประคบไว้ใต้ตาได้เลยนะคะทิ้งไว้ประมาณ 30นาที ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 2 - 3 ครั้ง รอยหมองคล้ำใต้ตาจะค่อยๆ เลือนหายไปจนเห็นได้ชัด
     อีก 1 วิธีซึ่งเเค่เพียงหั่นสไลด์มันฝรั่งเป็นเเผ่นบางๆ เเล้วนำไปประคบไว้ใต้ตาเลยก็สามารถทำได้เหมือนกันค่ะ แบบนี้ต้องลอง
4. ช่วยกระชับรูขุมขน
     เพียงคุณนำมันฝรั่งที่ต้มสุกเเล้วมาบดให้ละเอียด เเล้วนำไปผสมเข้ากับโยเกิร์ต จากนั้นให้นำลงมาส์กบนผิวหน้าทิ้งไว้อย่างนั้นประมาณ 30-40 นาที ประโยชน์ของมันฝรั่งในข้อนี้ก็คือภายในมันฝรั่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เเละให้วิตามินที่ดี เเละจำเป็นต่อผิวของเราซึ่งจะเป็นการช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนให้กับผิวหนังได้เป็นอย่างดีรับรองว่าช่วยกระชับรูขุมขนเเละบอกลาปัญหาเรื่องริ้วรอยไปได้เลยค่ะ

5. จัดการความหมองคล้ำใต้วงเเขน
    เพียงเเค่นำมันฝรั่งมาผสมกับน้ำมะนาว เเละน้ำผึ้ง เเล้วนำมาทาตรงส่วนใต้วงแขนที่ดำคล้ำแล้วทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง ทำประมาณ 2ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องผิวใต้วงเเขนได้เป็นอย่างดีค่ะ เเถมจะช่วยให้ผิวเเลดูกระจ่างใสขึ้นอีกโขเลยค่ะ

     เคล็ดลับ!! ความงามจาก "มันฝรั่ง" ที่เราได้รวบรวมมาฝากวันนี้ ไม่เชื่อก็คงต้องเชื่อเเล้วค่ะ  ลองนำไปใช้ดูเเลตัวเองกันบ้างนะคะ คราวหน้าเราจะมีเคล็ดลับอะไรดีๆ มาอีกอย่าลืมติดตามกันต่อค่ะ  นานาสาระ - วาไรตี้ >>>