แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สุขภาพดี แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สุขภาพดี แสดงบทความทั้งหมด

น้ำมะเขือเทศ ช่วยลดความดัน

พฤศจิกายน 25, 2563
    

      > มะเขือเทศ มีดี อีกแล้วค่ะ<

ในการประชุมแพทย์ที่อเมริกา นายแพทย์ต่างลงความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง ไม่ต้องกังวลมากอีกแล้ว

     เพียงแต่ทุกเช้า และก่อนนอน ให้ดื่มน้ำมะเขือเทศครั้งละ 1 แก้วก็พอ หากว่าน้ำมะเขือเทศจะมีรสเฝื่อนควรผสมกับน้ำผลไม้รสอื่นๆ ด้วยก็ได้ (แต่อย่าให้รสหวานมาไปนะคะ)

        แค่นี้เอง ไม่ยากใช่มั้ยล่ะ แถมน้ำมะเขือเทศยังช่วยในเรื่องผิวพรรณอีกด้วยค่ะ

ยังมีเรื่องราวที่เป็นประโยชน์อีกมากมาย ใน "สาระ1000เรื่อง"  >>>

"แก้วมังกร " กับประโยชน์สุดเจ๋ง

กรกฎาคม 29, 2563
   
 
       "แก้วมังกร" เป็นผลไม้ที่ใครหลายๆ ชื่นชอบ และรู้หรือไม่ว่าเป็นผลไม้ที่เป็นหนึ่งในรายชื่อ "ซุปเปอร์ฟู้ด" ว่ากันว่าคนรักสุขภาพ กับคนลดน้ำหนัก "ห้ามพลาด" เพราะอะไรน่ะหรือ เราได้นำประโยชน์สุดเจ๋ง ของแก้วมังกร มาบอกให้ได้รู้ทั่วกัน รับรองว่าจะต้องอยากรีบหามาทานแน่นอน!!

     แก้วมังกร ช่วยควบคุมน้ำตาลชั้นเยี่ยม!

จึงเหมาะอย่างมากสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน แถมขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้ที่ให้ไฟเบอร์สูงปรี๊ด จึงเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยควบคุม เเละรักษาน้ำตาลในเลือด  เเต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อความปลอดภัยสหรับท่านที่เป็นโรคเบาหวานก่อนรับประทานขอคำเเนะนำของเเพทย์เจ้าไข้จะเป็นการดีที่สุดค่ะ

     สรรพคุณของแก้วมังกร ช่วยดับกระหายคลายร้อน
โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนคงไม่มีผลไม้ชนิดไหนจะดีเเละเพอร์เฟ็คไปกว่าเเก้วมังกรอีกเเล้วล่ะ นอกจากนี้เมล็ดสีดำของเเก้งมังกรยังมีประโยชน์ที่ดีเพราะเต็มไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัว สามารถต่อต้านปฏิกิริยาออกซิเดชั่นได้เป็นอย่างดี ทั้งยังบรรเทาอาการร้อนในได้ดีมากๆ ทีเดียว

     ช่วยทำให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง ชะลอวัยได้ดีเยี่ยม 
เพราะในแก้วมังกรมีวิตามิน และแร่ธาตุมากมาย เริ่มตั้งเเต่วิตามินบี1 2 3, วิตามินซี, โปรตีน, แคลเซียม, และฟอสฟอรัส, ธาตุเหล็ก ซึ่งเหล่านี้ล้วนมีความจำเป็นต่อผิวพรรณของเราอย่างมาก ดังนั้นการรับประทานเเก้วมังกรจึงทำให้ผิวของเราดูสดใส สดชื่น ช่วยชะลอริ้วรอยที่เกิดก่อนวัยอันควรได้สารอนุมูลอิสระที่อยู่ภายในแก้วมังกรช่วยทำให้ผิวพรรณเต่งตึง และดูอ่อนเยาว์กว่าวัย  หรือใครสะดวกจะทำเป็นที่มาส์กหน้าเพื่อลดต้นเหตุของการเกิดสิว  ด้วยการฝานแก้วมังกรออกเป็นแผ่นบางๆ ก็ทำได้เช่นเดียวกันค่ะ 


      

อยากลดน้ำหนักต้องทาน!!
แก้วมังกรขนาดประมาณ 100กรัม ให้เเคลอรี่ เพียง 60 กรัม ซึ่งถือว่าเป็นผลไม้ให้พลังงานต่ำ เเถมน้ำตาลที่อยู่ในแก้วมังกรเป็นน้ำตาลกลุ่มน้ำตาลกลูโคส, ฟรุกโตส, เเละซูโครส  อีกทั้งยังพ่วงสารอาหารมาเเบบครบเครื่องเต็มที่เเบบสุดๆ ไปเลยค่ะ  แบบนี้จึงเหมาะสมกับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก  ใยอาหารที่มีอยู่ภายในเเก้วมังกรช่วยทำให้รู้สึกอิ่มท้องได้ยาวนาน กระตุ้นระบบการขับถ่าย หมดปัญหาเรื่องหน้าท้องโตเเพราะปัญหาท้องผูกไปได้ค่ะ

     แก้วมังกรเป็นผลไม้ที่ดีต่อใจที่สุดแระ!!
สุดยอดประโยชน์เจ๋งๆ ที่ต้องบอกว่าไม่ลองทานนี่คือพลาดค่ะ ยังช่วยลดระดับคอเรสเตอรอลชนิดไม่ดีในเลือด เเละยังเป็นการช่วยเพิ่มระดับคอเรสเตอรอลชนิดที่ดีให้แก่ร่างกาย เป็นผลไม้ที่มีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวนั่นเป็นไขมันที่ดีต่อร่างกายต่อสุขภาพของเรานั่นเองค่ะ

     ประโยชน์สุดเจ๋งอื่นๆ
มีดังนี้ค่ะ ทานเเล้วช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย, ทานเเล้วช่วยบำรุงกระดูก, เเละฟันให้เเข็งเเรง ข้อนี้เป็นคุณค่าที่คู่ควรกับผู้สูงอายุทั้งหลายเลยค่ะ นอกจากนี้ยังเป็นตัวช่วยชั้นดีในการช่วยกระตุ้นการขับน้ำนมในสตรีภายหลังจากการคลอดบุตรได้อีกด้วยค่ะ

     สรรพคุณเด็ด!! ขนาดนี้ต้องหามาติดตู้เย้นไว้ทานให้ได้เเล้วค่ะ ไม่ว่าจะเราเลือกรับประทานทั้งที่เนื้อในเป็นสีเเดงเข้ม เเละชนิดที่เนื้อในเป็นสีขาว ยังไงก็ได้ประโยชน์ที่ดีไม่เเพ้กันเลย เพราะเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพไปเเบบไม่มีข้อเเม้กันเลยทีเดียว  ติดตาม "นานาสาระ - วาไรตี้" >>

ส่องอาหาร - ทานแล้วไม่อ้วน!!

ขอเสนอ อาหารที่ทานแล้วไม่อ้วน

     เป็นส่วนหนึ่งในเมนูอาหาร ที่ทานแล้วไม่มีไขมันมากนัก จึงไม่ไปสะสม และไม่ไปเพิ่มน้ำหนักค่ะ


ประเภท ที่ 1 ต้ม  ต้มจืดตำลึง ต้มมะระยัดใส้ ต้มจืดวุ้นเส้น ต้มเลือดหมู แกงเลียง และแกงที่มีส่วนผสมผัก
   ประเภท ที่ 2   ยำ ยำรรวมมิตร ยำวุ้นเส้น ยำถั่วพลู หรือ ส้มตำต่างๆ ลาบหมู ฯลฯ

  ประเภท ที่ 3  นึ่ง  ปลากระพงนึ่ง ปลาหมึกนึ่งมะนาว ปลานึ่ง หรือไก่นึ่ง ฯลฯ อันนี้เป็นอาหารล้วนแล้วไม่มีไขมัน ทั้งสิ้น
   ถึงจะทานอาหารที่ไม่มีไขมัน แต่ก้อควรออกกำลังการอย่างสม่ำเสมอ ก้อเป็นวิธีอีกวิธีที่จะช่วยไปเผาผลาญ ไขมันส่วนเกินที่สะสมในร่างกายของเราที่มาในรูปแบบต่างๆ ได้ค่ะ ทั้งยังทำให้สุขภาพแข็งแรงด้วยค่ะ
     

"กล้วย" ประโยชน์เยอะ (รู้ยัง?)

สิงหาคม 29, 2562
     "กล้วย" ไม่มีใครไม่รู้จัก แต่จะรู้หรือไม่? ว่ามีประโยชน์มากมายกว่าที่เราคิด มากยังไง? เรามารู้จักกับบรรดากล้วยๆ กัน ให้ดีกว่านี้ค่ะ



     เริ่มที่ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี คือกล้วยน้ำว้า เป็นกล้วยที่ให้พลังงานมากที่สุด รองลงมาก็เป็นกล้วยไข่ แล้วตามด้วยกล้วยหอม
     นอกจากจะให้พลังงานกับเราแล้ว กล้วยยังอุดมไปด้วยโปรตีน แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ เหล็ก อีกอย่างมีวิตามินซีสูง ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันได้อีกด้วย

      ใครที่ท้องผูกบ่อยๆ ไม่ต้องกังวลอีกแล้ว ให้ทานกล้วยสุกเป็นประจำติดต่อกัน จะช่วยเรื่องการระบายถ่ายท้องได้ผลดีค่ะ (สาวๆ ท้องผูกบ่อยไม่ดีนะค๊ะ)
      ใครที่ท้องเสีย ให้ทานกล้วยห่ามๆ ครั้งละ 1 ลูก จะช่วยทุเลาอาการได้ค่ะ (หรือทานเป็นกล้วยดิบก็ได้ค่ะ)
     ในวันที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ ใครที่เจ็บคอ หรือมีอาการไอแห้วๆ และไอมากๆ  ให้ทานกล้วยสุกวันละ 5 - 6 ลูก รับรองช่วยบรรเทาอาการไอ และเจ็บคอให้ดีขึ้นได้

    กล้วยดีกับสุขภาพผิวด้วยนะ ถ้าสาวๆ อยากผิวพรรณดี และสวยอย่างมั่นใจ ไร้กลิ่นปาก ให้ทานกล้วยน้ำว้าทุกเช้า (ก่อนแปลงฟัน) ทานติดต่อกันประมาณ 1 สัปดาห์ ปากจะหอม ผิวจะผ่อง ว้าว!! สุดยอด ^___^^

       รู้อย่างนี้แล้วผลไม้ในสวนที่บ้านของเราเอง ก็มีประโยชน์มากมายจริงๆ หาทานง่ายๆ ใกล้ๆ ตัวเราแถมได้ทั้งพลังงาน ได้ทั้งสุขภาพ

     โปรด-ติด-ตาม-ตอนต่อไป >>>>

สตรอว์เบอร์รี - ผลไม้หัศจรรย์



เมื่อนึกถึง สตรอว์เบอร์รี  แล้วจะนึกถึงผลไม้ที่ทานอร่อย และใครๆ ก็ชอบทาน แต่จะรู้หรือไม่ว่า สตรอว์เบอร์รี นี้มีประโยชน์มากมาย ตามมาดูกันค่ะ

1. ทานในปริมาณ 1 ถ้วย จะให้พลังงานเพียง 49 kcal

2. มีไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยในเรื่องการขับถ่าย

3. ช่วยล้างพิษที่สะสมในร่างกาย

 4. ช่วยบำรุงสายตา และบำรุงระบบประสาท

  5. ช่วยรักษาแผลในปาก

6.   ห่างไกลจากโรค เช่น ลดความดันโลหิตสูง, โรคหัวใจ, มะเร็งลำใส้, นิ่วในไต

       ได้รู้กัน แบบนี้แล้วเราต้องรีบหามาทานประจำแล้วล่ะ.... >>

4 เคล็ดลับ .. ช่วยให้ทานอาหารได้น้อยลง

สิงหาคม 28, 2562


      มีผลการศึกษาจาก Centers for Disease Control and Prevention พบว่า ร้อยละ 80 ของผู้ที่ลดน้ำหนักสำเร็จ และสามารถควบคุมน้ำหนักให้อยู่คงที่ได้นั้นใช้หลักการเดียวกัน คือ ทานให้น้อยลง ซึ่งอาจทำตามได้ยาก ยังไงก็อยากให้ลองใช้ตัวช่วย เพื่อให้ลดความอยากลงได้ มีวิธีมาแนะนำค่ะ

     1. อย่าทาน ขณะดูทีวี   เพราะผลการศึกษาจาก มหาวิทยาลัยแมสซาซูเซตส์ บอกว่า คนส่วนใหญ่จะทานเพิ่มขึ้นอีกกว่า 300 แคลอรี่ เมื่อดูทีวีไปด้วย
     2. อย่าทาน ขนมขบเคี้ยวจากถุง  เพราะโอกาสที่จะทานหมดถุงมีสูงมาก ควรใช้ภาชนะแบ่งเพื่อควบคุมไม่ให้ทานมากจนเกินไป
     3. เคี้ยว ให้ช้าลง  เพราะกว่าร่างกายจะส่งสัญญาณว่า "อิ่ม" จากท้องขึ้นไปสู่สมอง ใช้เวลากว่า 20 นาที ดังนั้น ควรชะลอเวลาด้วยการเคี้ยวให้นานขึ้น เพื่อช่วยให้ย่อยง่าย และเว้นช่วงระหว่างคำ ด้วยการหายใจเข้า-ออกช้าๆ 
     4. เปลี่ยนบรรยากาศด้วยการเดินเล่นนอกบ้าน หรือทำกิจกรรมที่ไม่ต้องเห็นอาหาร เพราะนักวิจัยจากประเทศออสเตเลีย พบว่า การเบี่ยงเบนความสนใจด้วยการถอยห่างให้พ้นจากอาหาร หรือตู้เย็นจะช่วยลดความอยากอาหารลงได้

         ค่อยๆ ปรับกันไป เพื่อสุขภาพที่ดีค่ะ .......^^
     


"เที่ยวบ่อยๆ" สุขภาพยิ่งดี

สิงหาคม 28, 2562
 

  สุขภาพดี  นอกจากจะออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ และอีกหลากหลายวิธี แต่วันนี้เรามีอีกวิธีมาแนะนำค่ะ  "ไปเที่ยว" เพราะการไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ก็นำพาสุขภาพที่ดีให้กับเราได้อย่างน่าประหลาดค่ะ 

      การไปพักผ่อนตากอากาศอย่างสม่ำเสมอช่วยลดอัตราการวายของหัวใจได้ถึง 1 ใน 3 เพราะจิตใจที่ผ่อนคลาย และแจ่มใสจากการได้เที่ยว ได้พักผ่อน ทำให้ความดันเลือดของเราลดลงได้ทีค่ะ

      การทำงานหนัก ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ต่อครอบครัว ดังนั้นจึงไม่ควรโหมงานหนักจนเกินไป ควรหาโอกาสไปเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัวบ้าง จากการบอกเล่าของเด็กๆ กว่า 62% อยากให้พ่อแม่หยุดทำงานหนัก และเหนื่อยน้อยลง

      การไปพักผ่อนทำให้เกิดความสุข สุขภาพจิตดี พบว่าผู้หญิงที่หยุดพักผ่อนจากงานประจำเพื่อไปท่องเที่ยวตากอากาศปีละ 2 ครั้ง จะเครียด และเป็นโรคซึมเศร้าน้อยลงค่ะ แถมยังมีความสุขกับชีวิตครอบครัวมากว่าอีกด้วย

      แบบนี้อย่ารีรอควรหาโอกาส พาครอบครัวไปที่เที่ยวพักผ่อนหย่อนใน และผ่อนคลายจากความเครียดกันบ้างนะคะ
 

6 สุดยอดอาหารเพื่อเสริมร่างกายให้แข็งแรง

สิงหาคม 10, 2562


บลูเบอร์รี่ - บำรุงสายตาให้คมชัด 
     อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยฟื้นฟูและบำรุงสายตามให้แข็งแรง ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นักบินรบในสมัยนั้นต้องรับประทานบลูเบอร์รี่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยบำรุงสายตาในยามที่ต้องบินตอนกลางคืนด้วย



ข้าวโอ๊ต - เพิ่มพลังงาน
     ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล ซึ่งช่วยให้ร่างกายมีพลัง และไม่เหนื่อยล้าง่าย ค่ะ








กะหล่ำปลีสีม่วง - บำรุงเส้นผมให้เงางาม
     มีธาตุเหล็ก และแคลเซี่ยม ซึ่งเป็นสารอาหารหลักเพื่อช่วยให้เส้นผมเงางาม






บราซิล นัท - บรรเทาอาการซึมเศร้า
     ถั่วต่างๆ โดยเฉพาะบราซิล นัท อุดมไปด้วยธาตุซีเลเนียม (Selenium) ที่ช่วยทำให้อารมณ์สดชื่นขึ้นได้ค่ะ




น้ำมันปลา และเมล็ดลินซีด (Linseeds) - บำรุงผิวให้อ่อนเยาว์ 
     ทั้ง 2 อย่างนี้มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีความสำคัญต่อการบำรุงผิวกาย และเล็บให้ชุ่มชื่น




ผักชี - บรรเทาความเครียด
     อุดมด้วยวิตามิน B1 B2 B6 และ B12 ซึ่งช่วยในเรื่องบำรุงสมองให้ผ่อนคลาย




ติดตามสาระดีๆ ได้อีกเร็วๆ นี้ค่ะ

6 วิธี .. เลือกรองเท้าออกกำลังกายอย่างไรให้ปลอดภัย

สิงหาคม 10, 2562


     การเลือกรองเท้าออกกำลังกายที่กูกกับสรีระของเท้าและใช้วัสดุที่ได้มาตรฐาน สามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการ บาดเจ็บได้อย่างมาก ดังนั้น ถ้าคู่ที่ใช้อยู่เริ่มสึกหรอลง ควรเริ่มมองหาคู่ใหม่ได้แล้ว โดยมีเคล็ดลับในการเลือกมาฝากกันค่ะ

     1. ควรซื้อรองเท้าในช่วงบ่าย หรือตอนเย็นของวันเพราะเท้าจะขยายเต็มที่ จะทำให้รู้ขนาดของเท้าที่แท้จริงได้
     2. หากเท้าทั้ง 2 ข้างไม่เท่ากัน ให้เลือกไซส์ตามข้างที่ใหญ่กว่าเสมอ
     3. เลือกรองเท้าให้เหมาะสมกับกีฬาที่เล่น
     4. พกถุงเท้าที่ใส่เวลาออกกำลังกายไปด้วย เพื่อลองสวมกับรองเท้าคู่ใหม่ ควรทดลองเดินหรือวิ่งดูเพื่อทดสอบความสบายเท้า
     5. ลองงอที่รองเท้า เพื่อดูว่ามีความยืดหยุ่นดีหรือไม่ รองเท้าที่ดีไม่ควรงอง่าย หรือแข็งเกินไป
     6. สำหรับผู้หญิงที่มีเท้าขนาดใหญ่และกว้าง แนะนำลองมองหารองเท้ากีฬา ของผู้ชายเพราะหัวรองเท้าส่วนใหญ่จะออกแบบให้มีความกว้างกว่ารองเท้าผู้หญิง 

                วิธีง่ายๆ เพื่อความสะบาย และความปลอดภัย  ....^^
 

ระวัง !! โรคที่มากับเครื่องปรับอากาศ




    ช่วงนี้อากาศร้อนมากเลยนะค๊ะ เราจึงใช้งานเครื่องปรับอากาศค่อนข้างหนักมาก แต่ให้พึงระวัง ! โรคที่อาจมากับเครื่องกันบ้างก้อดีค่ะ มาดูกันค่ะว่ามีอะไรแอบแฝงมาบ้าง

    เครื่องปรับอากาศนอกจากจะช่วยให้คลายร้อนลงได้ แต่ก้อเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคนานาชนิด เช่น ไวรัส เชื้อรา และแบคทีเรีย ที่ล้วนส่งผลต่อสุขภาพของเราทั้งนั้น โรคที่ว่าคือ โรคภูมิแพ้ หืดหอบ ผื่นคัน ผิวหนังอักเสบ หรือโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ เป็นต้น

   ไม่ยากค่ะ  เราสังเกตเองง่ายๆ ถ้าเปิดแอร์แล้วมีกลิ่นอับชื้นปนออกมากับลมเย็น แสดงว่ามีเชื้อโรคแอบแฝงอยู่ ควรถึงเวลาทำความสะอาดได้แล้ว

    วิธีทำความสะอาด โดยนำแผ่นกรองออกมาล้างอย่างน้อย 1 เดือนครั้ง ด้วยการฉีดน้ำแรงๆ ที่ด้านหลังแผ่นเพื่อให้ฝุ่นที่เกาะอยู่ด้านหน้าหลุดออก แนะนำในแต่ละปีควรล้างแบบเต็มระบบ เพื่อช่วยขจัดเชื้อโรคแอบแฝงที่ติดอยู่ตามส่วนต่างๆ ได้ครบถ้วนยิ่งขึ้น และอย่ามองข้ามพัดลม ควรทำความสะอาดฝุ่นที่เกาะตามใบพัด รวมทั้งฝาครอบพัดลมให้หมดจดอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง

   สิ่งรอบตัวที่เรา สังเกต และทำความสะอาดได้ง่ายๆ ค่ะ


วิธีบริหารจัดการ "ความเครียด"

มิถุนายน 27, 2562

      ในแต่ละวันทุกคนต้องเจอกับความเคีรยดกันไม่มากก็น้อย อาจมีหลากหลายเรื่องให้ต้องคิด ต้องทำ หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เรามีวิธีที่จะผ่อนคลายลงได้ด้วย 8 วิธี ที่เรานำมาแนะนำวันนี้ค่ะ
     1. ออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง

     2. รับประทานอาหารที่มีคุณภาพ ลดการทานจุบจิบ เน้นทานอาหารให้ครบ 5 หมู่

     3. ฝึกจิตใจ ด้วยการทำสมาธิ

     4. ใช้น้ำมันหอมระเหยในการผ่อนคลายความเครียด

     5. ดนตรีบำบัด ฟังเพลงจะช่วยผ่อนคลาย อาจเปิดเพลงบรรเลงเบาๆ ฟังก่อนเข้านอน

     6. การใช้ความร้อนทั้งตัว เช่น อบสมุนไพร อบซาวน่า

     7. การนวดแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนวดแผนไทย นวดฝ่าเท้า นวดน้ำมัน หรือการนวดอื่นๆ ก็ช่วยให้ผ่อนคลายลงได้

    
     8. พักผ่อนให้เพียงพอวันละ 7 - 8 ชั่วโมง และไม่นอนดึกบ่อยเกินไป
          
           ลองนำไปใช้กันดูนะคะ ได้ผลยังไงแนะนำเพื่อนต่อๆ กันไปได้ความสุขใจไปอีกแบบค่ะ


"ฝุ่นละออง" ทำลายผิวหน้า ป้องกันยังไงดี?

มกราคม 28, 2562
        มาเฝ้าระวังสำหรับวิกฤตฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เหมือนจะยังไม่จางหาย และอาจความรุนเเรงมากขึ้นอีก  ซึ่งนอกจากจะกลายเป็นปัญหาสุขภาพ เเละระบบทางเดินหายใจเเล้ว รู้ไหมว่ารุนเเรงยิ่งไปกว่านั้นก็คือฝุ่นละอองเหล่านี้ยังทำร้ายสุขภาพผิวของเราอีกด้วยค่ะ เช่น เป็นปัญหาสิวอุดตัน, สิวผื่น,  ผิวหน้ามัน,  ริ้วรอย ที่เกิดขึ้นก่อนวัยอันสมควร หรือรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า ผิวเกิดปัญหาหมองคล้ำ ดูไม่กระจ่างใส เป็นเเบบนี้จะป้องกัน และดูเเลยังไง มีเคล็ดลับดีๆ มาฝากค่ะ

 1. ทาครีมกันเเดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง
     ก่อนออกจากบ้านทุกครั้งก็อย่ามองข้ามความสำคัญของครีมกันเเดด ต้องไม่ลืมทาทุกครั้ง ที่ไม่ว่าจะเผชิญกับสถานการณ์รูปแบบใดหมอกควัน หรือฝุ่นละอองเมื่อมาพบกับเเสงเเดดหรือ UV ก็จะทำให้เกิดสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ทำให้เซลล์ผิวถูกทำร้าย เเละทำลายคอลลาเจนในชั้นผิวหนังได้ เเน่นอนว่าสิ่งที่ได้ตามมา ก็คือ  ปัญหาผิวหมองคล้ำ  เเละทำให้เกิดริ้วรอยได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นเพื่อไม่ให้ฝุ่นละอองขนาดจิ๋วที่คุณไม่สามารถมองเห็น *ก่อนออกจากบ้านทุกครั้งอย่าลืมทาครีมกันเเดดเพื่อป้องกันสารพัดปัญหาผิวของคุณค่ะ

 2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

     สาวๆ ทั้งหลายทราบรู้หรือไม่ ว่าการดื่มน้ำให้เพียงพอนอกจากจะเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว หรือทำให้ผิวของคุณเเลดูกระจ่างใส เปล่งปลั่งแล้ว  ยังมีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิดอีกค่ะ โดยเฉพาะกับการเผชิญสภาวะที่เต็มไปด้วยฝุ่นละอองเช่นนี้ การดื่มน้ำก็จะช่วยขับของเสียออกจากร่างกายของเราได้เป็นอย่างดี  *เเต่อย่าลืมว่าต้องดื่มให้เพียงพอด้วยน้ำจะคอยทำหน้าที่ขับของเสียให้ผิวกระจ่างใสมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ

 3. ถึงบ้านเเล้วต้องล้างหน้าให้สะอาด
     สำคัญมากเลยค่ะ โดยเฉพาะคุณสาวๆ ห้ามพลาดเลยเด็ดขาด!  หลายคนเข้าใจว่าใส่หน้ากากอนามัยเพื่อปกป้องตัวเองจากฝุ่นละออง หรือทาครีมกันเเดดไปแล้วนี่นา ขอบอกว่าเลยว่าฝุ่นละอองเล็กๆ พวกนี้นี้ก็เล็ดลอดไปยังผิวของคุณได้ค่ะ  ดังนั้นวิธีการกำจัดฝุ่นเเละมลภาวะที่น่าจะแก้ปัญหาได้ดีที่สุด ก็คือการล้างเเละทำความสะอาดผิวหน้าให้หมดจดนั่นเองค่ะ  หรือจะใช้คลีนซิ่งเพื่อเช็ดเเละล้างเครื่องสำอางออกให้หมด  ปิดท้ายการล้างหน้าด้วยโทนเนอร์อีกทีก็จะเป็นการทำความสะอาดได้อย่างหมดจดมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ


  4.  ฟื้นฟูเเละบำรุงผิวของคุณอยู่เสมอ
     สำคัญเลยค่ะ  ทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอเเล้วก็อย่าลืมฟื้นฟู เเละบำรุงผิวที่ถูกทำร้ายให้กลับมาดังเดิมด้วยค่ะซึ่งสกินเเคร์ที่ดีเเละมีคุณภาพก็มีอยู่มากมายหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ได้ตามความชอบ หรือใครที่มีสุดยอดสกินเเคร์อยู่เเล้วก็สามารถนำมาใช้เพื่อเป็นการฟื้นฟูเเละบำรุงผิวของคุณให้กลับมาเเข็งเเรงอีกครั้ง เมื่อผิวหน้าของคุณเเข็งเเรงขึ้นเเล้วก็จะได้เป็นการป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรก เชื้อโรค หรือฝุ่นละอองซึมซับเข้าสู่ผิวของคุณได้ยากขึ้น

   5. สวมใส่หน้ากากอนามัย
     การสวมใส่หน้ากากอนามัยก็ถือว่าเป็นหาทางที่ช่วยป้องกันไม่ให้ฝุ่นละอองเข้ามาสู่ผิวหน้าของคุณได้ง่ายเเม้จะไม่ได้ 100% เเต่ป้องกันไว้ดีกว่าแก้ค่ะ  ยิ่งตอนนี้มีการรณรงค์ให้สวมหน้ากากอนามัยที่สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กจิ๋วได้ เช่น N95 เเต่ถ้าหาไม่ได้จริงๆ ก็ใช้หน้ากากอนามัยเเบบธรรมดาไปก่อน อาจเพิ่มความหนาซ้อนทับด้วยกระดาษทิชชู่อีก 2 แผ่น นอกจากช่วยป้องกันฝุ่นละอองตัวร้ายไม่ให้ทำลายสุขภาพของเราได้เเล้ว ก็ยังเป็นการป้องกันผิวหน้าของคุณได้อีกทางหนึ่งด้วยค่ะ

     เรื่องผิวหน้าเป็นเรื่องสำคัญที่สาวๆ ไม่ควรละเลยและมองข้าม  และเเม้ว่าจะเจอฝุ่นละอองมาทำร้ายมากเเค่ไหน  ถ้าเรารู้จักวิธีการดูเเลที่ถูกต้อง และเราก็สามารถปฏิบัติได้อย่างสม่ำเสมอเเล้วก็คงไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลกันอีกต่อไปเเล้วค่ะ  พบกันใหม่ ตอนต่อไปได้ใน "นานาสาระ - วาไรตี้" เร็วๆ นี้ค่ะ  ^___^

เลือกทาน "ไข่เยี่ยวม้า" อย่างไร? ให้ปลอดภัย

มกราคม 19, 2562
      

      ท่านที่ชอบการรับประทาน "ไข่เยี่ยวม้า"  วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังกันว่าทานยังไงให้ปลอดถัย มาอ่านดูกันก่อนค่ะะ

  ไข่เยี่ยวม้าเกิดขึ้นจากอะไร?
ไข่เยี่ยวม้าเป็นผลผลิตจากการการถนอมอาหารประเภทไข่อย่างหนึ่ง โดยวิธีการถนอมอาหารด้วยการพอกด้วยปูนขาว ผสมใบชา เกลือป่น และขี้เถ้านวดด้วยน้ำเย็น หรืออีกวิธีหนึ่งคือนำไปแช่ในน้ำที่มีส่วนผสมของสารละลายเบสที่มีปูนขาว เกลือ โซดาแอชชาดำ และสังกะสีออกไซด์

     สิ่งที่ทำให้ไข่เยี่ยวม้ากลายอาหารที่ไม่ได้ปลอดภัย100% นั่นก็เพราะผู้ประกอบการ หรือพ่อค้าแม่ค้าบางรายมีแอบใช้สารตะกั่วออกไซด์ หรือซัลไฟด์ลงในส่วนผสมที่ใช้พอก หรือแช่เพื่อช่วยให้ไข่กลายเป็นไข่เยี่ยวม้าได้เร็วขึ้น และเห็นผลมากขึ้นซึ่งอาจทำให้ไข่เยี่ยวม้าที่ผลิตมีสารตะกั่วปนเปื้อนได้

  สารตะกั่วในไข่เยี่ยวม้าอันตรายอย่างไร?
หลายครั้งที่คิดจะซื้อไข่เยี่ยวม้ามาทาน ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการเลือกบริโภคไข่เยี่ยวม้าเพิ่มมากขึ้น เพราะการมีสารตะกั่วปนเปื้อนอยู่ในอาหารบ่อยๆ และทำให้มีอาการท้องผูก และส่งผลต่อการทำงานที่ผิดปกติของเซลล์ไขกระดูกระบบประสาทไต หรืออาจเลยไปถึงกล้ามเนื้อกระดูกข้อมือ ข้อเท้า ที่อาจเกิดอาการอัมพาต หรือสมองบวมชักและอาจถึงเสียชีวิตได้ เเต่อย่างไรก็ตามเมื่อคุณได้รับสารปนเปื้อนในอาหารสะสมอยู่มากเข้าๆ ก็จะเเสดงอาการตามข้างต้น  แต่ถ้าไม่ได้ทานเป็นประจำก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะยังทานได้ตามปกติ

   วิธีสังเกต ไข่เยี่ยวม้าที่ปลอดภัย
มาสังเกตไข่เยี่ยวม้าที่สุ่มเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของสารตะกั่วกันค่ะ  ให้สังเกตที่ไข่ขาวว่ามีสีดำมากเกินไปหรือไม่อาจจะเป็นลักษณะสีดำขุ่นไม่ใช่สีน้ำตาลเข้มใสๆ อย่างที่เคยเห็นกัน ถ้าผิดสังเกตแบบนี้ขอให้สันนิษฐานว่าเป็นไข่เยี่ยวม้าที่ปนเปื้อนสารตะกั่ว จากขั้นตอนการทำไข่เยี่ยวม้าดังนั้นให้พยายามหลีกเลี่ยงการรับประทานค่ะ หรืออย่ารับประทานบ่อยเกินไป

     เเต่ถึงอย่างไรก็ตามไข่เยี่ยวม้าที่ไม่มีสารปนเปื้อนจากตะกั่วก็ยังเป็นอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกายพอๆ กับไข่สดนอกจากนี้ยังสามารถเก็บไว้ได้นาน มีแคลเซียมสูงเพียงเเต่ให้ระเเวดระวังการรับประทานเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการทานค่ะ

เคล็ดลับ!! "ให้หลับสบายทั้งคืน"

มกราคม 13, 2562
    
     การพักผ่อนสิ่งที่ดีที่สุด คือการนอนหลับ   แต่ก็มีบางคนนอนไม่ค่อยหลับ หรือหลับไม่สนิท แม้จะทำทุกวิถีทางแล้วก็ตาม จ
ะเพิ่งยานอนหลับก็คงจะไม่ดีแน่ๆ วันนี้หาสุดยอดวิธีดีๆ มาให้ค่ะ

    1. กินก่อนนอน
งานวิจัยชิ้นหนึ่งค้นพบว่า การรับประทานอาหารในปริมาณน้อยมื้อเบาๆ  ที่ประกอบไปด้วยคาร์โบไฮเดรต พร้อมด้วยแคลเซียม หรือโปรตีน ซึ่งอุดมไปด้วยกรดอะมิโน ทริปโตแฟน จะช่วยให้คุณหลับสบายขึ้นในเวลากลางคืน  เพราะสารอาหารเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างเซโรโทนิน สารเคมีทางสมองที่ช่วยให้รู้สึกความสงบ ซึ่งเวลาที่เหมาะสมในการทานของกินเล่นก็คือ 1 ชม. ก่อนเข้านอนค่ะ


     2. ถ้าหลับไม่ลงสักทีก็อย่าฝืน
โบราณว่า ถ้านอนไม่หลับก็ลุกออกมาจากเตียง แต่การนอนห่มผ้าบนเตียงที่แสนนุ่มสบายต่อไปก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน เพราะฉะนั้น  จงปิดไฟเอนกายลง และหนุนหมอนให้สบาย  หายใจเข้าออกลึกๆ หรือไม่ก็คิดภาพว่ากำลังออกกำลังกาย จนคุณง่วงหลับไปเองค่ะ

     3. สูดกลิ่นแห่งนิทรา
กลิ่นบางกลิ่นก็ช่วยให้คนเรารู้สึกอยากนอนได้ อย่างเช่น กลิ่นลาเวนเดอร์ คาร์โมไมล์ กระดังงา ฯลฯ  มันสามารถส่งผลให้เกิดการทำงานของคลื่นสมองระดับอัลฟา ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย และง่วงนอน ลองหยดน้ำมันหอมระเหยสัก 2-3  หยด ลงในน้ำเปล่าแล้วพรมลงบนหมอนสักเล็กน้อยสิคะ

     4. เลือกสีห้องนอนให้เหมาะสม
 สีบางสีช่วยให้กระปรี้กระเปร่า และสีบางสีก็ทำให้ง่วงซึม อย่างเช่น สีขาว เป็นต้น เหล่าผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าสีขาวเป็นสีที่ไประงับสารเมลาโทนิน ฮอร์โมนที่ช่วยให้ร่างกายกำหนดกระบวนการหลับ - การตื่น  ดังนั้นจึงควรเลือกสีน้ำตาล หรือสีกรมท่าซึ่งช่วยเสริมสร้างการหลั่งสารเมลาโทนินแทน


     5. บอกลานมอุ่ม แล้วหันมาดื่มน้ำเชอรี่แทนดีกว่า
การดื่มน้ำเชอรี่ช่วยพัฒนาการนอนหลับ เพราะมันคือแหล่งของเมลาโทนิน และทริปโตแฟนทางธรรมชาติ เพราะฉะนั้นก่อนกลับบ้าน ก็แวะซื้อน้ำเชอรี่เข้มข้นมาดื่มสักนิดก็ดีค่ะ


      รู้แบบนี้แล้ว มาลองนำ 1 ใน  5 วิธี นี้มาปรับใช้ให้เข้ากับความสะดวกในแบบของเรากันดีกว่า เริ่มตั้งแต่วันนี้เลยค่ะ ฝันดีค่ะ  แล้วอย่าลืมติดตาม "นานาสาระ - วาไรตี้" ค่ะ

เคลียร์กันชัดๆ ไข่เเดง VS ไข่ขาว อะไรดีกว่ากัน?

มกราคม 12, 2562



     ไข่ขาว หรือ ไข่เเดง อย่างไหนให้ประโยชน์มากกว่ากัน? ไข่ขาว ไข่เเดงเป็นเเหล่งโปรตีนที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูงให้เเคลอรี่ต่ำ เเต่ก็ให้พลังงานต่อร่างกายไม่เท่ากันค่ะ  ใครที่อยากลดน้ำหนัก หลายคนก็เลือกที่จะเขี่ยก้อนไข่เเดงออกเพราะคิดว่าเจ้าไข่เเดงให้คอเรสเตอรอลสูงปรี๊ด อ้าวแล้วต่างกันเยี่ยงไร? >>>

     ความเเตกต่าง ไข่เเดง กับ ไข่ขาว
จริงๆ เเล้วอยู่ตรงที่การให้พลังงาน เเละเเคลอรี่ที่ไม่เท่ากันค่ะ เพราะโดยทั่วไปเเล้วไข่แดงจะมีแคลอรี่อยู่ประมาณ 60แคลอรี่ ส่วนไข่ขาวอยู่ที่ 15 เเคลอรี่ นั่นหมายความว่าไข่แดงมีแคลอรี่มากกว่าไข่ขาวนั่นเองค่ะ จึงไม่แปลกเลยคนที่ต้องการลดน้ำหนักจึงเลือกทานแต่ไข่ขาว อะอ๊ะ! อย่าเพิ่งด่วนสรุปอะไรนะ เพราะมีอีกหนึ่งข้อมูลดีๆ ที่เราต้องรู้มาบอกเพิ่มเติมค่ะ >>

     ความเเตกต่างอีกหนึ่งประการ ของไข่เเดง เเละไข่ขาว
คือ ภายในไข่เเดงมีธาตุอาหารอย่างฟอสฟอรัสสูงรวมถึงยังมีวิตามิน ADEK  สามารถละลายได้ในไขมัน ซึ่งเราจะไม่พบในไข่ขาว ในขณะที่ไข่ขาวเราจะพบว่ามีสารอาหารอย่างโซเดียมเเละโพเเทสเซียมสูง  และเราจะไม่พบในไข่เเดงดังนั้นการทานไข่ขาวเเต่เพียงอย่างเดียวก็อาจทำให้คุณพลาดโอกาสที่จะได้รับวิตามิน ADEK นั่นเองค่ะ ในขณะเดียวกันการที่คุณทานเเต่ไข่เเดงอย่างเดียวก็อาจจะขาดเเร่ธาตุสำคัญอย่างโพเเทสเซียมไปได้

     หลายๆ คนหลีกเลี่ยงการทานไข่เเดงเพราะเชื่อว่าจะทำให้เราได้รับคอเรสเตอรอลสูงเกินไป การศึกษาวิจัยในระยะหลังก็พบว่าการรับประทานคอเรสเตอรอลจากอาหารหรือปริมาณคอเลสเตอรอลในร่างกายของเราไม่ได้มาจากอาหารการกินที่เราทานเข้าไปมากนัก ส่วนใหญ่มาจากการสร้างขึ้นเองในร่างกายลำพังเพียงคอเลสเตอรอลจากไข่แดงหากไม่ได้ทานเป็นจำนวนมากจริงๆ ก็ไม่ได้ทำให้ร่างกายมีคอเลสเตอรอลมากเกินไปอย่างแน่นอนไม่ได้ส่งผลต่อการเกิดโรคหัวใจเเละหลอดเลือด

     ไข่ยังมีประโยชน์เเถมเหมาะสมสำหรับคนทุกวัยการเสริมสร้างสุขภาพร่างกายโดยการกินไข่ตั้งเเต่วัยเด็กเลยจะเป็นสิ่งที่ดีมากเลยค่ะเด็ก7-8 ปี สามารถทานได้วันละครึ่งฟองวัยเด็กถึงวัยทำงานสามารถทานได้วันละ 1-2 ฟอง รวมถึงผู้สูงอายุสามารถทานได้วันละ 1-2 ฟอง เเต่ในผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวเช่นโรคเบาหวานหรือความดันโลหิตก็สามารถทานไข่ได้สัปดาห์ละ 3 ฟอง

      ข้อควรสรุปที่เราเห็นว่าน่าจะดีที่สุด เเละเคลีย์ที่สุดในประเด็นนี้ก็คือการทานทั้งไข่เเดง เเละไข่ขาวถึงจะได้ประโยชน์อย่างสมบูรณ์ครบถ้วนเเละคุณก็ยังสามารถทานไข่เเดง หรือไข่ขาวได้แบบปกติไม่ต้องมีอะไรให้กังวลเเต่เราเราไม่เเนะนำให้ทานไข่ไก่ดิบนะคะ การทานอาหารให้เหมาะสมตามช่วงวัย หรือกิจกรรมในเเต่ละวันที่เราต้องใช้พลังงานด้วยนะคะ

"เต้าหู้" กับคุณประโยชน์เน้นๆ ที่ต้องว้าว!!

มกราคม 07, 2562
    

      "เต้าหู้" กับประโยชน์ไม่ได้ธรรมดาเลย  โดยเฉพาะเป็นหนึ่งในอาหารเพื่อสุขภาพ เเละลดน้ำหนัก แถมยังมีดีต่อสุขภาพของคนที่ทานอีกด้วย คนจำนวนมากอาจไม่เคยรู้ว่า "เต้าหู้" มีดีอะไรบ้าง ตามมาอ่านค่ะ

     1. เต้าหู้ เเละผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองมีสารกลุ่มไอโซฟลาโวนสูง
ซึ่งทำหน้าที่คล้ายฮอร์โมนเอสโทรเจนในเพศหญิง เเละควบคุมการเสริมสร้างกระดูกในร่างกายดังนั้นผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองจึงมีความสำคัญสำหรับผู้หญิงทุกวัยโดยเฉพาะในวัยหมดประจำเดือน

     2. เสริมสร้างกระดูก เเละฟัน
ก็เพราะในเต้าหู้มีเเคลเซียมสูง เหมาะกับคนทุกวัยโดยเฉพาะเด็กๆ เเละสตรีมีครรภ์ซึ่งต้องการเเคลเซียมปริมาณมาก นอกจากนี้ยังช่วยลดโอกาสเกิดภาวะกระดูกพรุนในผู้สูงอายุเเละสตรีวัยทองอีกด้วยค่ะ

    3. ป้องกันโรคความดันโลหิตสูง เเละโรคหัวใจ
เพราะเต้าหู้ไม่มีคอเรสเตอรอลจึงช่วยลดโอกาสเป็นโรคความดันเเละหัวใจ

     4. ป้องกันโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก 
เต้าหู้เป็นเเหล่งของซีลีเนียม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการทำงานของระบบต่อต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ในคุณผู้ชายได้อีกด้วยค่ะ
     5 .เต้าหู้เป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยม 
โปรตีนจากเต้าหู้ให้คุณค่ามากกว่าเนื้อสัตว์บางชนิดในปริมาณเท่ากันถึงสองเท่า โปรตีนที่ได้จากถั่วเหลืองแปรรูปประเภทนี้มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายถึง 8ชนิด และยังเป็นโปรตีนที่ให้ไฟเบอร์หรือกากใยอาหารที่ช่วยในระบบย่อยอีกด้วย นอกจากนั้นโปรตีนประเภทนี้ยังมีประสิทธิภาพในการลดคอเลสเตอรอลและลดระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ในกระแสเลือดได้


     6. เหมาะสำหรับผู้ที่เเพ้นมวัว
ซึ่งอาจเกิดจากการที่ร่างกายไม่สามารถย่อยน้ำตาลเเล็กโทสในนมได้ การดื่มน้ำเต้าหู้จึงเป็นทางเลือกที่ดีเเม้คุณค่าทางอาหารจะน้อยกว่านมวัวเเต่ก็สามารถชดเชยด้วยการรับประทานอาหารประเภทโปรตีนเเละเเร่ธาตุอื่นๆ ได้ค่ะ

      7. ป้องกันโรคระบบทางเดินอาหารเเละมะเร็งลำไส้
เส้นใยอาหารในเต้าหู้ทำหน้าที่ช่วยการทำงานของระบบทางเดินอาหารเเละลำไส้ลดโอกาสการเกิดมะเร็งลำไส้ได้

     ข้อมูลเพิ่ม : นอกจากนี้เต้าหู้ก็ยังมีเลซิทิน ซึ่งมีผลในการลดไขมันและช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบประสาทที่เกี่ยวกับความทรงจำด้วย "เต้าหู้" อาหารเลิศรสที่มาจากดินเเดนจีนโพ้นทะเลเราได้รับวัฒนธรรมการทานเต้าหู้ เเละได้มาดัดเเปลงเป็นหลายๆ ส่วนผสมของอาหารไทยหลายชนิด  นอกจากนี้เต้า  หู้เต้าฮวยน้ำ เเละนอกจากจะมีโปรตีนสูงเเล้วยังมีสารอาหารอื่นๆ เช่นคาร์โบไฮเดรต เเคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส รวมทั้งเส้นในอาหารเเละยังมีไขมันอิ่มตัวต่ำไม่มีคอเรสเตอรอลเต้าหู้หนึ่งหน่วยบริโภค (100 กรัม) ให้พลังงานประมาณ 73 กิโลเเคลอรี่ เพียงเท่านั้นเองเหมาะสำหรับท่านที่อยากลดน้ำหนักได้ดีเลยค่ะ

ควรทาน "ไข่" ทุกวัน!! เพราะ 7 ประโยชน์ดีๆ นี้

มกราคม 03, 2562
     7 ประโยช์นดีๆ นี้มีอะไรบ้าง มาอ่านกันเลยค่ะ
     1. รู้หรือไม่?  ไข่เป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยม เเละมีคุณค่าทางสารอาหารมากมาย
ไข่เพียง 1 ฟองให้โปรตีนอยู่ถึง 6 กรัม  เป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยมที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากทานเนื้อสัตว์  นอกจากนี้สารอาหารภายในไข่ยังประกอบไปด้วย วิตามินเอวิตามินบี วิตามินอีไธอามีน โฟเลต ธาตุเหล็กเเมกนีเซียม โอเมก้า 3 สูง เเละยังอุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่สำคัญต่อร่างกายของเราอีกด้วยค่ะ

     2.  ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอล
ก็เพราะไข่ประกอบไปด้วยคอเลสเตอรอล HDL ซึ่งเป็นไขมันดี เเละไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ  ทานไข่เป็นการช่วยลดระดับไขมัน LD Lซึ่งเป็นไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกาย เเละช่วยให้ร่างกายผลิตวิตามิน เเละฮอร์โมน เช่น เทสโทสเตอโรนเอสโตรเจน หรือฮอร์โมนคอร์ติซอล ให้กับร่างกายด้วย

     3. ทานเเล้วช่วยบำรุงสมอง เเละระบบประสาทได้ดี
อยากสมองไบรท์เจิดจรัสเเล้วล่ะก็การทานไข่ก็ช่วยได้เป็นอย่างดี เพราะในไข่มีสารอาหารสำคัญอย่างโคลีน ที่ช่วยในการพัฒนาสมอง เกี่ยวข้องกับระบบความจำเป็นสารตั้งต้นที่ส่งผ่านสื่อประสาทที่เรียกว่าแอซิติลโคลีน ควรค่ากับคุณผู้หญิงทั้งหลายที่กำลังตั้งครรภ์ค่ะ ช่วยลดความเสี่ยงต่อความผิดปกติของเด็กในครรภ์ได้ค่ะ

     4. ไข่ทำให้ผิวพรรณดู สดใส เปล่งปลั่งขึ้นได้เยอะ
เพราะวิตามินบี คือสิ่งที่ทำให้ผิวของเราดูนุ่มเนียน เเละสดใสเปล่งปลั่ง แถมยังช่วยเรื่องความงามได้ดีโดยเฉพาะบำรุงเส้นผม หรือพัฒนาสุขภาพตาของคุณได้อีกด้วย

    
5. บำรุงกระดูก เเละสุขภาพฟัน
OMG!! ทราบไหมค่ะว่าประโยชน์ของไข่ก็เป็นตัวช่วยดีๆ ในการบำรุงดูเเลกระดูก เเละฟันได้เหมือนกัน  เพราะไข่ประกอบไปด้วยวิตามินดี เเคลเซียม ที่จะเข้าไปบำรุงเเละเสริมสร้างความเเข็งเเรงให้กับฟันรวมถึงกระดูกของเรานั่นเอง  เเถมยังช่วยบำรุงกล้ามเนื้อได้ดี สำหรับคนที่ไม่อยากทานเนื้อสัตว์ก็ลองเลือกทานไข่เพื่อเป็นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อดูค่ะเพราะไข่ไก่ 2 ฟองให้คุณค่าเท่าๆ กับเนื้อสัตว์ 1 ส่วนโดยเฉพาะให้ทานไข่ขาวที่มีโปรตีนอยู่สูงจะช่วยบำรุงกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดีค่ะ

     6.  ช่วยลดน้ำหนัก

ด้วยความที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย  เเถมการทานไข่ยังทำให้คุณรู้สึกอิ่มง่ายกินน้อยลง แนะนำค่ะให้ทานในมื้อเช้าจะเป็นเรื่องที่ดีมากเลยค่ะ เพราะจะช่วยลดปริมาณการทานอาหารที่คุณกินในระหว่างวันได้ เหมาะสำหรับคนที่กำลังลดไขมัน เเละลดน้ำหนักได้ดีค่ะ

     7.  ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ
อย่างที่เราพอได้ทราบประโยชน์ของไข่กันไปบ้างเเล้ว นั่นแหละค่ะไข่จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรค เช่น มะเร็งเต้ามนม ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ หรือลดความเสี่ยงต่อโรคต้อกระจก  รวมไปถึงรักษาโรคภาวะหลอดเลือดเเข็งได้อีกด้วย


         เราเห็นประโยชน์ของไข่ที่ดีต่อร่างกายของเรามากมายกว่าที่คิดไว้  เเถมหาซื้อได้ง่าย สะดวก และยังราคาไม่เเพงทำทานก็ง่าย ควรมีติดครัวไว้ และมาทานไข่ทุกๆ เช้ากันนะคะ

"หัวเราะ" ให้ถูกวิธี มีดีกว่าที่เราคิด!

ธันวาคม 10, 2561
      
       การที่ได้  “หัวเราะ”  จะช่วยให้ฮอร์โมนความเครียด เช่นคอร์ติซอลอะดรีนาลีนลดลงและเพิ่มสาร "เอ็นดอร์ฟิน" หรือสารความสุขเพิ่มขึ้น
ตามศาสตร์ตะวันออกบอกว่าการหัวเราะบำบัดทำได้โดยสูดลมเข้าเต็มปอดกักไว้ทำอารมณ์ ให้สนุกยิ้มเข้าไว้และเปล่งเสียงเป็นสระ....

          สระ  - โอ อา อู เอ โอ      =  ท้องหัวเราะ
          สระ  -  อา                     =  อกหัวเราะ
          สระ  -  อู                       =  คอหัวเราะ
          สระ  -  เอ                      =  หน้าหัวเราะ 
          ฮึๆ (ทำเสียงในจมูก)         =  จมูกหัวเราะ 

            สำคัญเลยในทุกๆ วันอย่าลืมให้สมองกับหัวใจได้หัวเราะ พร้อมยิ้มให้กับตัวเอง และคนรอบๆ ข้างด้วยเพื่อชีวิตที่มีความสุข…สดใสค่ะ