ระดับน้ำท่วมแค่ไหน - ปลอดภัยเมื่อขับรถ

กรกฎาคม 30, 2563

   ฝนตก...น้ำท่วม!!  และแล้วก็เป็นอุปสรรคการเดินทาง ทั้งรถติด แถมน้ายังท่วมขังอีก ถ้าต้องขับรถลุยน้ำที่ท่วมขังแล้วจะแน่ใจได้ยังไงว่ารถของเราจะไม่เป็นอะไร เรามีระดับความสูงของน้ำมาฝากกัน

     1. ระดับความสูงของน้ำ 10 - 30 เซนติเมตร
         ประมาณจากขอบฟุตบาท หรือประมาณตาตุ่ม ถึงกลางหน้าแข้ง รถเล็ก (เก๋ง,กระบะ) สามารถวิ่ง
         ได้ อาจได้ยินเสียงน้ำกระเพื่อมอยู่ที่ใต้ท้องรถ แต่ยังขับต่อไปได้เรื่อยๆ ไม่มีปัญหาอะไร

     2. ระดับความสูงของน้ำ 20 - 40 เซนติเมตร
         ประมาณขอบประตูรถของรถเก๋งทั่วไปที่มีระยะสูงจากพื้น 150 - 170 ม.ม. หรือประมาณหัวเข่า
         ถึงต้นขา ระดับนี้รถเก๋งไม่สามารถวิ่งได้แล้ว เพราะท่อไอเสียจะจมน้ำอยู่ตลอดเวลา แต่รถขนาด
         ใหญ่อย่าง รถเมล์, รถทหาร ยังสามารถวิ่งได้ ส่วนรถกระบะยังพอวิ่งได้

      3. ระดับความสูงของน้ำ 40 - 60 เซนติเมตร
          รถกระบะทั่วไปยังพอวิ่งได้ แต่ต้องระวังคลื่นน้ำสูงที่ลอยมากระทบตัวรถ และอาจเข้าไปในตัว
          เครื่องยนต์ได้ ระดับน้ำขนาดนี้ควรปิดระบบปรับอากาศขณะขับทุกครั้ง

      4. ระดับความสูงของน้ำ 60 - 80 เซนติเมตร

          ระดับนี้เป็นระดับที่อันตรายกับรถทุกประเภท เพราะน้ำอาจไหลเข้ากรองอากาศได้ง่าย หากน้ำ
          ไหลเข้ากรองอากาศแล้วจะทำให้เครื่องยนต์หยุดชะงัก และสร้างความเสียหายต่อระบบต่างๆ
          ของรถได้ หรือหากจำเป็นต้องขับลุยไป ควรหาอะไรมาปิดตัวถังด้านหน้าเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำ
          ไหลเข้ากรองอากาศ ที่สำคัญอย่าขับปะทะคลื่นโดยตรง ควรค่อยๆ ขับช้าๆ เพื่อไม่ให้เครื่องดับกะทันหัน

   จะให้ดีไม่ควรเสี่ยงจะดีกว่า แต่หากเลี่ยงไม่ได้หรือจำเป็นควรดูระดับของน้ำข้างต้น "สาระ1000เรื่อง"

"แก้วมังกร " กับประโยชน์สุดเจ๋ง

กรกฎาคม 29, 2563
   
 
       "แก้วมังกร" เป็นผลไม้ที่ใครหลายๆ ชื่นชอบ และรู้หรือไม่ว่าเป็นผลไม้ที่เป็นหนึ่งในรายชื่อ "ซุปเปอร์ฟู้ด" ว่ากันว่าคนรักสุขภาพ กับคนลดน้ำหนัก "ห้ามพลาด" เพราะอะไรน่ะหรือ เราได้นำประโยชน์สุดเจ๋ง ของแก้วมังกร มาบอกให้ได้รู้ทั่วกัน รับรองว่าจะต้องอยากรีบหามาทานแน่นอน!!

     แก้วมังกร ช่วยควบคุมน้ำตาลชั้นเยี่ยม!

จึงเหมาะอย่างมากสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน แถมขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้ที่ให้ไฟเบอร์สูงปรี๊ด จึงเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยควบคุม เเละรักษาน้ำตาลในเลือด  เเต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อความปลอดภัยสหรับท่านที่เป็นโรคเบาหวานก่อนรับประทานขอคำเเนะนำของเเพทย์เจ้าไข้จะเป็นการดีที่สุดค่ะ

     สรรพคุณของแก้วมังกร ช่วยดับกระหายคลายร้อน
โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนคงไม่มีผลไม้ชนิดไหนจะดีเเละเพอร์เฟ็คไปกว่าเเก้วมังกรอีกเเล้วล่ะ นอกจากนี้เมล็ดสีดำของเเก้งมังกรยังมีประโยชน์ที่ดีเพราะเต็มไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัว สามารถต่อต้านปฏิกิริยาออกซิเดชั่นได้เป็นอย่างดี ทั้งยังบรรเทาอาการร้อนในได้ดีมากๆ ทีเดียว

     ช่วยทำให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง ชะลอวัยได้ดีเยี่ยม 
เพราะในแก้วมังกรมีวิตามิน และแร่ธาตุมากมาย เริ่มตั้งเเต่วิตามินบี1 2 3, วิตามินซี, โปรตีน, แคลเซียม, และฟอสฟอรัส, ธาตุเหล็ก ซึ่งเหล่านี้ล้วนมีความจำเป็นต่อผิวพรรณของเราอย่างมาก ดังนั้นการรับประทานเเก้วมังกรจึงทำให้ผิวของเราดูสดใส สดชื่น ช่วยชะลอริ้วรอยที่เกิดก่อนวัยอันควรได้สารอนุมูลอิสระที่อยู่ภายในแก้วมังกรช่วยทำให้ผิวพรรณเต่งตึง และดูอ่อนเยาว์กว่าวัย  หรือใครสะดวกจะทำเป็นที่มาส์กหน้าเพื่อลดต้นเหตุของการเกิดสิว  ด้วยการฝานแก้วมังกรออกเป็นแผ่นบางๆ ก็ทำได้เช่นเดียวกันค่ะ 


      

อยากลดน้ำหนักต้องทาน!!
แก้วมังกรขนาดประมาณ 100กรัม ให้เเคลอรี่ เพียง 60 กรัม ซึ่งถือว่าเป็นผลไม้ให้พลังงานต่ำ เเถมน้ำตาลที่อยู่ในแก้วมังกรเป็นน้ำตาลกลุ่มน้ำตาลกลูโคส, ฟรุกโตส, เเละซูโครส  อีกทั้งยังพ่วงสารอาหารมาเเบบครบเครื่องเต็มที่เเบบสุดๆ ไปเลยค่ะ  แบบนี้จึงเหมาะสมกับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก  ใยอาหารที่มีอยู่ภายในเเก้วมังกรช่วยทำให้รู้สึกอิ่มท้องได้ยาวนาน กระตุ้นระบบการขับถ่าย หมดปัญหาเรื่องหน้าท้องโตเเพราะปัญหาท้องผูกไปได้ค่ะ

     แก้วมังกรเป็นผลไม้ที่ดีต่อใจที่สุดแระ!!
สุดยอดประโยชน์เจ๋งๆ ที่ต้องบอกว่าไม่ลองทานนี่คือพลาดค่ะ ยังช่วยลดระดับคอเรสเตอรอลชนิดไม่ดีในเลือด เเละยังเป็นการช่วยเพิ่มระดับคอเรสเตอรอลชนิดที่ดีให้แก่ร่างกาย เป็นผลไม้ที่มีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวนั่นเป็นไขมันที่ดีต่อร่างกายต่อสุขภาพของเรานั่นเองค่ะ

     ประโยชน์สุดเจ๋งอื่นๆ
มีดังนี้ค่ะ ทานเเล้วช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย, ทานเเล้วช่วยบำรุงกระดูก, เเละฟันให้เเข็งเเรง ข้อนี้เป็นคุณค่าที่คู่ควรกับผู้สูงอายุทั้งหลายเลยค่ะ นอกจากนี้ยังเป็นตัวช่วยชั้นดีในการช่วยกระตุ้นการขับน้ำนมในสตรีภายหลังจากการคลอดบุตรได้อีกด้วยค่ะ

     สรรพคุณเด็ด!! ขนาดนี้ต้องหามาติดตู้เย้นไว้ทานให้ได้เเล้วค่ะ ไม่ว่าจะเราเลือกรับประทานทั้งที่เนื้อในเป็นสีเเดงเข้ม เเละชนิดที่เนื้อในเป็นสีขาว ยังไงก็ได้ประโยชน์ที่ดีไม่เเพ้กันเลย เพราะเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพไปเเบบไม่มีข้อเเม้กันเลยทีเดียว  ติดตาม "นานาสาระ - วาไรตี้" >>

6 นิสัย ที่ทำให้อ้วน

กรกฎาคม 29, 2563

    หากใครมีนิสัยตามนี้ เลิกซะ !! ก่อนที่ความอ้วนจะมาโดยไม่รู้ตัว


 1.  กินเร็ว   เวลาทานควรเคี้ยวอาหารคำละ 20 - 30 ครั้ง ก่อนกลืน

 2.  กินจุบจิบ  ไม่ควรซื้อขนมขับเคี้ยวติดไว้ที่โต๊ะทำงาน หรือที่บ้าน

 3.  กินเรียบ  ควรตักแต่พอดีทาน เน้นน้อยๆ ไม่อิ่มค่อยเติมทีหลังได้

 4.  อดมื้อเช้า มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญมากๆ ควรทานให้ครบ 5 หมู่

 5.  อารมณ์ไหนก็กิน  หากหิวให้ทานเมื่อรู้สึกหิว ไม่ใช่แค่ใจอยาก

 6.  นอนดึก-ทานดึก  ควรนอนให้ได้อย่างน้อย คืนละ 8 ชั่วโมง

        เคล็ดลับปรับใหม่นะ...เพื่อหุ่นที่ดีกว่าเดิม  >>>>> ติดตามเราได้ใหม่ ใน สาระ1000เรื่อง ..

ส่องอาหาร - ทานแล้วไม่อ้วน!!

ขอเสนอ อาหารที่ทานแล้วไม่อ้วน

     เป็นส่วนหนึ่งในเมนูอาหาร ที่ทานแล้วไม่มีไขมันมากนัก จึงไม่ไปสะสม และไม่ไปเพิ่มน้ำหนักค่ะ


ประเภท ที่ 1 ต้ม  ต้มจืดตำลึง ต้มมะระยัดใส้ ต้มจืดวุ้นเส้น ต้มเลือดหมู แกงเลียง และแกงที่มีส่วนผสมผัก
   ประเภท ที่ 2   ยำ ยำรรวมมิตร ยำวุ้นเส้น ยำถั่วพลู หรือ ส้มตำต่างๆ ลาบหมู ฯลฯ

  ประเภท ที่ 3  นึ่ง  ปลากระพงนึ่ง ปลาหมึกนึ่งมะนาว ปลานึ่ง หรือไก่นึ่ง ฯลฯ อันนี้เป็นอาหารล้วนแล้วไม่มีไขมัน ทั้งสิ้น
   ถึงจะทานอาหารที่ไม่มีไขมัน แต่ก้อควรออกกำลังการอย่างสม่ำเสมอ ก้อเป็นวิธีอีกวิธีที่จะช่วยไปเผาผลาญ ไขมันส่วนเกินที่สะสมในร่างกายของเราที่มาในรูปแบบต่างๆ ได้ค่ะ ทั้งยังทำให้สุขภาพแข็งแรงด้วยค่ะ